ทุกครั้งที่สตาร์ทรถออกจากบ้าน ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเองหรือผู้อื่น แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกบนท้องถนนได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่คนอื่น สภาพถนน หรือเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ เพราะฉะนั้น การมีประกันรถยนต์ที่เหมาะสม จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ และลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด
แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์สักฉบับ ไม่ใช่แค่ดูว่าความคุ้มครองครอบคลุมแค่ไหน หรือเบี้ยประกันราคาเท่าไหร่เท่านั้น ยังมีปัจจัยอีกหลายเรื่องที่ควรพิจารณาร่วมด้วย เพื่อให้การทำประกันคุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานจริงมากที่สุด
หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือ “เบี้ยประกันรถยนต์” ซึ่งก็คือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยในแต่ละปี แลกกับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ โดยภายในเบี้ยประกันนั้น จะรวมทั้งค่าความคุ้มครองรถของเรา และความคุ้มครองบุคคลภายนอกในกรณีที่เกิดเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด หลายคนอาจเข้าใจว่าเบี้ยประกันแพงคือดีเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเหมาะสมต้องพิจารณาจากทั้งอายุของรถ ลักษณะการใช้งาน และงบประมาณส่วนตัวด้วย การเลือกเบี้ยที่เหมาะสมควรอยู่บนพื้นฐานของความสามารถในการจ่ายจริง รวมถึงเปรียบเทียบราคากับความคุ้มครองที่ได้รับจากหลายบริษัท เพราะบางครั้งเบี้ยใกล้เคียงกัน แต่รายละเอียดในความคุ้มครองกลับต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
อีกประเด็นที่มักถูกมองข้ามคือ “ค่าเสียหายส่วนแรก” หรือ Deductible ซึ่งหมายถึงจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเองส่วนหนึ่งในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับ (Excess) ที่ต้องจ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยรถชนเสา หรือเฉี่ยวสิ่งกีดขวาง และค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ (Deductible) ที่ผู้เอาประกันเลือกได้ว่าจะจ่ายเท่าใด เพื่อให้เบี้ยประกันต่อปีลดลง ซึ่งแบบหลังนี้จะมีผลต่อค่าเบี้ยในปีถัดไป โดยเฉพาะหากเกิดเหตุบ่อยครั้ง ค่าเบี้ยอาจถูกปรับเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นการพิจารณาค่าเสียหายส่วนแรกควรอิงจากนิสัยการขับขี่และความชำนาญของตัวเองร่วมด้วย เพราะหากเราเป็นผู้ที่ขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ค่อยมีประวัติการเกิดเหตุ การเลือก Deductible สูงก็อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเบี้ยประกันในระยะยาว
สุดท้าย คือการตรวจสอบ “อู่ซ่อมในเครือของบริษัทประกัน” ที่จะเป็นผู้ให้บริการซ่อมรถหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น การเลือกบริษัทที่มีอู่ซ่อมในเครือคุณภาพดีและอยู่ในพื้นที่ที่เดินทางสะดวกจึงสำคัญไม่น้อย เพราะต่อให้คุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกกรณี แต่ถ้าอู่ที่อยู่ในเครืออยู่ห่างไกล หรือมีคิวซ่อมยาวเป็นเดือน ก็อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่ารถเดินทางระหว่างรอรถซ่อม หรือแม้แต่ค่าเสียเวลาทำงาน ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่ออู่ในเครือบริษัทประกันที่สนใจ ศึกษารีวิวจากผู้ใช้จริง หรือเดินทางไปดูสถานที่จริงหากสามารถทำได้ เพื่อให้มั่นใจว่าอู่เหล่านั้นได้มาตรฐาน และพร้อมให้บริการเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ
การเลือกทำประกันรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องของราคาหรือความคุ้มครองสูงสุดเท่านั้น แต่ควรเป็นการตัดสินใจที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ งบประมาณ และการให้บริการหลังการขายด้วย หากคุณกำลังมองหาประกันที่ตอบโจทย์ Easy Insure มีบริการเปรียบเทียบข้อมูลจากบริษัทประกันชั้นนำในที่เดียว ทั้งเรื่องเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง และรายชื่ออู่ซ่อม เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายและมั่นใจยิ่งขึ้น
