## 🚗 เคลมประกันรถยนต์ยังไงให้ไม่ยุ่งยาก?
**ทำตาม 4 ขั้นตอนนี้ ไม่ว่ามือใหม่หรือมือเก่า ก็เคลมได้ง่ายๆ**
ในวันที่เกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือ “ความช่วยเหลือที่รวดเร็ว” และ “ขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน” เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังอาจทำให้เราสับสนและกังวลโดยไม่จำเป็น
เพื่อให้ทุกคนรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้แบบมือโปร EasyInsure ขอพาไปรู้จักกับ **4 ขั้นตอนเคลมประกันภัยรถยนต์แบบเข้าใจง่าย** ทำตามได้จริงทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ตาม
### ✅ 1. โทรแจ้งประกันทันทีเมื่อเกิดเหตุ
หลังจากตั้งสติและประเมินว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรง (ถ้ามีควรรีบโทร 1669 ก่อน)
ขั้นตอนแรกคือ **โทรแจ้งบริษัทประกันภัย** ที่คุณทำกรมธรรม์ไว้
สิ่งที่ต้องเตรียมและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ได้แก่:
* **เลขที่กรมธรรม์ประกันภัย**
* **เลขทะเบียนรถของคุณ**
* **สถานที่เกิดเหตุ** (ถ้ามีพิกัด GPS ได้ยิ่งดี)
* **รายละเอียดของเหตุการณ์** เช่น ชนกับรถคันอื่น มีทรัพย์สินเสียหายหรือไม่ ฯลฯ
📌 **แนะนำ:** ให้ถ่ายรูปกรมธรรม์ไว้ในโทรศัพท์ หรือเก็บสำเนาไว้ในรถตลอดเวลา จะช่วยให้หยิบใช้ได้สะดวกเมื่อต้องแจ้งเคลม
### ✅ 2. เตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมก่อนเจ้าหน้าที่ถึง
ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ประกันเดินทางมาถึง อย่าเพิ่งถ่ายรูปอัป Facebook หรือโทรบอกเพื่อน
ควรใช้เวลานี้ในการ **เตรียมเอกสารที่จำเป็น** ได้แก่:
* **ใบขับขี่ของผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ**
* **หน้าตารางกรมธรรม์**
* **สำเนาทะเบียนรถ (เล่มจริงไม่ต้องใช้)**
📌 ถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือก็ใช้ได้ เจ้าหน้าที่เพียงแค่ตรวจสอบความถูกต้องและบันทึกข้อมูลไว้ในใบเคลม
### ✅ 3. รับใบเคลมจากเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาจะทำหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายรูป ตรวจสอบข้อมูล และ **ออกใบเคลม (Claim Form)** ให้กับเรา
ใบนี้คือสิ่งสำคัญที่จะใช้ในการนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ในเครือของบริษัทประกันภัย
กรณีที่ควรระวัง:
* ถ้าไม่มีคู่กรณี (เช่น โดนชนแล้วหนี หรือถอยรถชนเสาเอง) อาจจะต้อง **จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)** ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
* ถ้าเป็นการขับรถผิดประเภท เช่น รถส่วนบุคคลแต่ใช้บรรทุกของ อาจถูกปฏิเสธความคุ้มครองบางส่วน
📌 อ่านเพิ่มเติม: [ค่า Excess คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 5 นาที] *(ใส่ลิงก์บทความเพิ่มเติมได้)*
### ✅ 4. นำรถเข้าซ่อมตามเงื่อนไขกรมธรรม์
เมื่อได้รับใบเคลมแล้ว สามารถนำรถเข้าซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่เลือกไว้ เช่น
* **ซ่อมอู่**: ซ่อมกับอู่ในเครือประกันภัย (ประหยัดกว่า เหมาะกับรถไม่ใหม่มาก)
* **ซ่อมห้าง**: ซ่อมกับศูนย์บริการมาตรฐานของรถยี่ห้อนั้น (เหมาะกับรถใหม่ หรือผู้ที่ต้องการอะไหล่แท้)
📌 หากเลือกซ่อมกับอู่หรือศูนย์ที่ **ไม่อยู่ในเครือประกัน** อาจต้องสำรองจ่ายก่อน แล้วนำใบเสร็จไปเบิกคืน ซึ่งอาจใช้เวลาและขั้นตอนเพิ่มเติม