ต่อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี มาดูข้อดีของการต่อที่เดิมและที่ใหม่

การต่อประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถทุกคนต้องเจอในทุก ๆ ปี การเลือกบริษัทประกันภัยที่ใช่ไม่เพียงช่วยให้คุณอุ่นใจในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า และทำให้ขั้นตอนการเคลมสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี 2025 ที่การแข่งขันของบริษัทประกันในไทยเข้มข้นมากขึ้น การรู้รายละเอียดในแต่ละมุมจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของรถทุกคน


บริษัทประกันภัยรถยนต์ยอดนิยมและลักษณะเฉพาะของแต่ละเจ้า

วิริยะประกันภัย

หนึ่งในบริษัทประกันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 70 ปี วิริยะโดดเด่นด้าน การเคลมไว, บริการหลังการขายดีเยี่ยม, และ ความน่าเชื่อถือสูง มีอู่ในเครือจำนวนมากทั่วประเทศ ทั้งอู่ทั่วไปและอู่มาตรฐาน มีเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และตอบสนองได้เร็วเวลามีปัญหา

จุดเด่น:

  • เครือข่ายอู่ครอบคลุมทั่วไทย
  • เคลมง่าย เคลมเร็ว
  • เจ้าหน้าที่ติดตามผลหลังการซ่อมจริงจัง

จุดด้อย:

  • เบี้ยประกันค่อนข้างสูงกว่าเจ้าอื่นเล็กน้อย
  • อาจมีขั้นตอนเอกสารมากกว่าบริษัทที่เน้นระบบดิจิทัล

กรุงเทพประกันภัย

เป็นบริษัทที่ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและการบริการที่มีคุณภาพ บริษัทนี้มีชื่อเสียงในด้านการให้บริการลูกค้าและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

จุดเด่น:

  • ระบบจัดการเคลมออนไลน์ดีเยี่ยม
  • ความคุ้มครองมีให้เลือกหลากหลาย
  • เหมาะกับรถยนต์ใหม่และกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน

จุดด้อย:

  • บางแผนประกันมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนครั้งของการเคลมเล็กน้อย

ธนชาตประกันภัย

ภายใต้กลุ่ม TTB (ทีเอ็มบีธนชาต) แม้จะเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างใหม่ในตลาด แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การเคลมเป็นเรื่องง่าย

จุดเด่น:

  • เบี้ยประกันไม่สูง
  • มีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น เช่น ประกันตามระยะทางขับขี่
  • การจัดการเอกสารออนไลน์ดีมาก

จุดด้อย:

  • เครือข่ายอู่อาจยังไม่กว้างเท่าบริษัทเก่าแก่

คุ้มภัยโตเกียวมารีน

เกิดจากการควบรวมระหว่างบริษัทคุ้มภัยกับโตเกียวมารีน มีชื่อเสียงระดับโลก จึงมีความมั่นคงสูง ความโดดเด่นอยู่ที่แพ็กเกจประกันที่ออกแบบมาหลากหลายและความโปร่งใสในการเคลม

จุดเด่น:

  • การบริการรวดเร็ว
  • เหมาะกับรถญี่ปุ่นหรือรถที่ใช้บ่อย
  • มีแผนประกันรายเดือนให้เลือก

จุดด้อย:

  • ช่องทางติดต่ออาจไม่ครอบคลุมเท่าบริษัทใหญ่เจ้าอื่น

สินมั่นคงประกันภัย

เป็นบริษัทประกันที่เหมาะกับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าและโปรโมชันที่น่าสนใจ เช่น ประกันรถยนต์ตามไมล์ หรือประกันเฉพาะกลุ่มอายุ มีการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างจริงจัง

จุดเด่น:

  • เบี้ยประกันราคาประหยัด
  • มีผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม เช่น สำหรับวัย 30+, คนขับรถน้อย
  • เคลมผ่านระบบออนไลน์ได้สะดวก

จุดด้อย:

  • อาจไม่ได้รับความคุ้มครองเต็มรูปแบบในแผนราคาประหยัด

ต่อประกันที่เดิมหรือย้ายที่ใหม่? ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้

การต่อประกันกับบริษัทเดิม

การต่อกับที่เดิมจะง่ายที่สุด ไม่ต้องกรอกข้อมูลใหม่ บริษัทจะมีข้อมูลเดิมอยู่ครบ ซึ่งช่วยลดโอกาสการกรอกข้อมูลผิด และมักได้รับ ส่วนลดประวัติดี เช่น ไม่มีเคลมในปีก่อน จะลดได้ประมาณ 10–20% ตามนโยบายของบริษัทนั้น ๆ

ข้อดี:

  • ไม่ต้องกรอกเอกสารใหม่
  • ได้รับส่วนลดประวัติดี
  • สะดวกและไว

ข้อเสีย:

  • อาจพลาดโปรโมชันที่คุ้มกว่าจากบริษัทอื่น
  • ไม่ได้เปรียบเทียบความคุ้มครองใหม่

การต่อประกันกับบริษัทใหม่

การย้ายบริษัทประกันอาจเป็นทางเลือกที่ดี หากพบว่ามีแผนประกันที่เหมาะสมกว่า เบี้ยถูกกว่า หรือบริการดีกว่า โดยเฉพาะในปีที่ไม่มีประวัติการเคลม การย้ายจะไม่กระทบต่อการพิจารณาเบี้ย

ข้อดี:

  • เปรียบเทียบได้หลายบริษัท
  • รับโปรโมชันพิเศษ เช่น กล้องติดรถ, คูปองน้ำมัน
  • เหมาะกับคนที่ขับดี แต่เบื่อบริการบริษัทเดิม

ข้อเสีย:

  • ต้องกรอกข้อมูลและแนบเอกสารใหม่
  • หากเคลมยังไม่เสร็จ ต้องปิดเคลมกับบริษัทเก่าให้เรียบร้อยก่อน

เอกสารที่ใช้ในการต่อประกันภัยรถยนต์

  1. สำเนาบัตรประชาชน ของเจ้าของรถ
  2. สำเนาทะเบียนรถ (หน้าที่มีข้อมูลรถ)
  3. สำเนาใบขับขี่ (ถ้าระบุชื่อผู้ขับขี่)
  4. ใบเสนอราคา/เลขกรมธรรม์เดิม (กรณีต่อที่เดิม)

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาเบี้ยประกัน

  • ประเภทของประกัน: ชั้น 1, 2+, 3+ มีราคาต่างกันอย่างชัดเจน
  • ยี่ห้อและรุ่นของรถ: รถยุโรปแพงกว่ารถญี่ปุ่น
  • ปีที่จดทะเบียน: รถเก่ายิ่งนาน เบี้ยจะลดลง
  • พฤติกรรมการขับขี่: ไม่มีเคลม ลดเบี้ยได้
  • การระบุชื่อผู้ขับขี่: ลดเบี้ยได้เฉลี่ย 10–20%
  • รูปแบบการซ่อม: เลือกอู่ถูกกว่าศูนย์

เทคนิคช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกัน

  • ติดกล้องหน้ารถ: บางบริษัทลดเบี้ยให้ 5–10%
  • ยอมรับค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible): จ่ายน้อยตอนต่อ, จ่ายเพิ่มถ้ามีเคลม
  • ใช้บริการเปรียบเทียบจากโบรกเกอร์: เช่น Roojai, TQM, EasyCompare
  • เลือกซ่อมอู่แทนศูนย์: ประหยัดได้หลายพันบาท
  • ทำประกันตามระยะทาง: เหมาะกับคนขับรถไม่บ่อย
  • สมัครแพ็กเกจระยะยาว: บางบริษัทมีแบบ 2 ปี

ความเห็นจากผู้ใช้จริงใน Pantip

จากการวิเคราะห์หลายกระทู้ที่ตั้งคำถามว่า “ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี?” พบว่าแต่ละคนมีเกณฑ์การตัดสินใจที่ต่างกัน เช่น:

  • คนที่เน้น “บริการหลังการขาย” จะเลือก วิริยะ หรือ กรุงเทพประกันภัย
  • คนที่เน้น “ราคาประหยัดและออนไลน์ง่าย” จะเลือก สินมั่นคง หรือ Roojai
  • คนที่ขับรถน้อยหรือมีรถปีเก่า มักเลือกประกันแบบ 2+ หรือ 3+ เพื่อประหยัดเงิน

หากคุณมีประเภทรถยนต์ รุ่น อายุรถ หรือความต้องการเฉพาะ เช่น อยากได้ประกันแบบซ่อมศูนย์ หรืออยากเคลมง่ายเฉพาะบางกรณี บอกมาได้เลยครับ ผมจะช่วยวิเคราะห์แบบเจาะจงให้ตรงความต้องการของคุณที่สุด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *