3 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

การมีประกันภัยรถยนต์ถือเป็นหนึ่งในวิธีบริหารความเสี่ยงที่ดีที่สุด เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และมักนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หลายคนจึงเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ด้วยความเข้าใจว่าจะได้รับความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี แต่ในความเป็นจริง ยังมีหลายเงื่อนไขที่ผู้เอาประกันอาจไม่เคยรู้มาก่อน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 3 เรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกแผนประกันได้ตรงความต้องการ และไม่พลาดในเรื่องที่ควรระวัง

เรื่องที่ 1: เงื่อนไขการซ่อมรถยนต์ ไม่ได้จำกัดแค่ที่บริษัทกำหนด
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การซ่อมรถไม่จำเป็นต้องให้บริษัทประกันเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ผู้เอาประกันมีสิทธิเลือกวิธีการซ่อมได้เองในบางกรณี เช่น

-สามารถสำรองจ่ายเพื่อซื้ออะไหล่เอง แล้วนำใบเสร็จมาเบิกเงินกับบริษัทประกัน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์

-ขอรับเงินชดเชยจากประกันตามราคาประเมิน แล้วนำไปจัดหาอะไหล่และซ่อมรถด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ หากรถมีการตกแต่งเพิ่มเติม เช่น ติดตั้งอุปกรณ์เสริมก่อนทำประกัน โดยไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ประกันอาจไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับอุปกรณ์เหล่านั้น

อีกประเด็นสำคัญคือ การซื้อประกันออนไลน์ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับบริการช่วยเหลือ เช่น รถยก เพราะบริษัทประกันส่วนใหญ่ยังคงให้บริการเช่นเดิม แต่ควรตรวจสอบความชัดเจนในเงื่อนไขก่อนตัดสินใจซื้อ
เรื่องที่ 2: ข้อจำกัดของความคุ้มครองที่มักถูกมองข้าม
แม้จะมีประกันรถยนต์ แต่ก็มีหลายกรณีที่อาจไม่ได้รับความคุ้มครอง เช่น

-ขับรถขณะมึนเมา: หากตรวจพบแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันจะไม่จ่ายค่าสินไหม

-ไม่มีใบขับขี่: หากผู้ขับไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ณ เวลาที่เกิดเหตุ ประกันจะไม่คุ้มครอง ยกเว้นระบุชื่อคนขับไว้ชัดเจนในกรมธรรม์

-รถเสียหายจากรถยก: แม้บริษัทประกันจะครอบคลุมค่ารถยก แต่หากรถเกิดความเสียหายระหว่างการลากจูง ผู้เอาประกันมักต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนนี้เอง

เรื่องที่ 3: เงื่อนไขการชดเชยค่าเสียหายที่หลายคนไม่เคยรู้
การชดเชยจากประกันภัยรถยนต์ไม่ได้จำกัดแค่การซ่อมแซมเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดที่หลายคนอาจไม่ทราบ เช่น

-อุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี: หากไม่ได้ระบุค่าเสียหายส่วนแรกไว้ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันมักจ่ายเพียง 1,000 บาทเท่านั้นเมื่อไม่มีคู่กรณี

-รถเสียหายรุนแรง: หากรถเสียหายมากกว่า 70% ของมูลค่ารถ บริษัทประกันจะชดเชยเต็มวงเงินตามทุนประกัน แต่หากเสียหายเกิน 80% รถจะถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *