การดูแลรถยนต์

มาดูวิธี การดูแลรถยนต์ ในสถานะการณ์ที่รถต้องจอดนานๆแบบนี้กันเถอะ

การดูแลรถยนต์

การดูแลรถยนต์ ในภาวะที่การเดินทางถูกจำกัด หรือต้องใช้รถน้อยลงเป็นสิ่งที่ควรรู้ไว้ เพราะรถยนต์เอง ถ้าไม่ได้ใช้งานนานๆ ก็จะมีความเสื่อมในรูปแบบที่เกิดจากการไม่ได้ใช้งานอยู่ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตอนนี้จะใช้งาน ยิ่งถ้าเป็นสถานะการณ์ฉุกเฉินที่ต้องใช้รถ หลังจากที่จอดมาเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถใช้รถได้ ซึ่งจะกลายเป็นปัญหา ฉะนั้นการดูแลรถให้พร้อมใช้งานตลอดเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นมากๆ ใช้เวลาไม่มาก และขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากเลย ในบทความนี้จะนำเสนอวิธีการง่ายๆ และทำได้แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ 

วิธี การดูแลรักษารถยนต์ ที่ต้องจอดนานๆ

 

  1. ที่จอดรถ ถ้ารู้ตัวแล้วว่าจะต้องจอดรถเป็นเวลานานๆ ไม่ได้ใช้งานเลย อันดับแรกต้องหาที่จอดที่เหมาะสม เป็นไปได้ควรเป็นที่ร่มไม่โดนแดด โดนฝน ดีที่สุดคือจอดใต้หลังคา เพราะแดดนอกจากจะทำร้ายสีภายนอกตัวรถแล้ว แต่ภายในรถก็โดนทำร้ายได้ด้วยแดดและความร้อนเเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนัง คอนโซลรถ ฟิล์มกรองแสง รวมไปถึงชิ้นส่วนต่างๆที่ทำจากยางหรือพลาสติกจะเสื่อมสภาพไวขึ้นหากโดดแดดเป็นเวลานานๆ อีกทั้งกระจกรถ ผู้เขียนเองเคยเห็นกรณีที่รถจอดตากแดดในวันที่ร้อนมากๆเป็นเวลานาน แล้วอยู่ๆฝนก็ตกลงมา กระจกแตกทันทีเลย ซึ่งเกิดจากการที่ตัวกระจกเปลี่ยนอุณหภูมิกระทันหัน พยายามหาที่จอดเป็นที่ร่มกันนะครับ ถ้าหาที่เป็นหลังคาไม่ได้ ก็อย่าให้ต้องตากแดดทั้งวันเลย เราจะได้ใช้รถคันนี้ไปนานๆ
    การดูแลรถยนต์
    จอดกลางแดดทั้งวันแบบนี้ นานๆไม่ดีแน่
  2. แบตเตอรี่รถยนต์ ส่วนนี้ไม่สามารถเช็คได้ด้วยตาเปล่า แต่การดูแลคือ ควรสตาร์ทรถ 10 นาที สัปดาห์ละ 2 วันเป็นอย่างน้อย เพื่อให้แบตเตอรี่ได้มีการชาร์จไฟ หากไม่สตาร์ทเลยไฟจะค่อยหมดออกจากแบตเตอรี่ไป ถ้าจำต้องใช้รถอาจจะทำให้เกิดการสตาร์ทไม่ติดขึ้นได้ ถ้าเป็นไปได้ สตาร์ททุกวันจะดีมากๆเลยละครับ ถ้าไม่สตาร์ทเลยไม่เพียงแค่รถสตาร์ทไม่ติด แต่แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมได้เลย ( ผู้เขียนเคยเป็น เสียดายเงินมาก ) เสียเงินเปลี่ยนใหม่มันน่าเสียดาย เป็นวิธีง่ายๆที่ทำได้ ลองทำดูกันนะครับ
    การดูแลรถยนต์
    ถ้าไม่สตาร์ทเลย ถึงเวลาจะใช้สตาร์ทไม่ติดไม่รู้ด้วยนะ
  3. ยางรถยนต์ อุปกรณ์ส่วนนี้ก็เสื่อมจากการจอดนานๆได้เช่นกัน การดูแลยางอาจจะยากกว่าอุปกรณ์อื่น เพราะรถต้องจอดนิ่งๆ ถ้าจะให้ถอดออกมาวาง ก็คงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ คือการเช็คลมยาง อาจจะเช็คด้วยสายตาก็ได้ ถ้าเริ่มอ่อน ให้รีบนำไปเติมลมก่อน เพราะถ้าถึงขั้นแบนเลย ท่านจะไม่สามารถขับไปเติมลมได้ ถ้าแบนแค่ล้อเดียวอาจจะเปลี่ยนเป็นยางอะไหล่แล้วขับไป แต่ถ้าแบนหรือเสื่อมมากกว่า 1 ล้อ อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ ฉะนั้นหลังจากสตาร์ทรถแล้ว เดินรอบรถสัก 1 รอบเพื่อเช็คยางรถยนต์ด้วย
    การดูแลรถยนต์
    ถ้าปล่อยจนยางแบน จะขับออกจากบ้านไม่ได้เอานะ
  4. ของเหลวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันพาวเวอร์ จะเป็นส่วนที่สามารถเช็คได้ด้วยตาเปล่า อาจจะใช้ความเข้าใจสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยาก และไม่ต้องทำทุกวัน ถ้าเราสตาร์ทรถสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจจะมีครั้งหนึ่ง ก่อนสตาร์ท ก็เปิดฝากระโปรง เช็คหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง และมองไปที่กระปุกน้ำมันเบรกกับน้ำมันพาวเวอร์ด้วย ถ้าพร่องลง ก็เติม แต่ค่อยๆเติมนะครับ ถ้าล้นจะเลอะเทอะ และเอาออกลำบาก สรุปคือ เช็คสัปดาห์ละครั้ง หรือสองสัปดาห์ครั้งก็ได้ และถ้าแบตเตอรี่ใช้แบบเติมน้ำกลั่น ดูน้ำกลั่นแบตเตอรี่ด้วยก็ดีครับ
    การดูแลรถยนต์
    การตรวจเช็คของเหลวอาจจะต้องมีความรู้สักหน่อย แต่ไม่ยากเลย
  5. สุดท้ายเลยคือสภาพโดยรวม ความสะอาดของรถ จอดนานๆฝุ่นจับเป็นเรื่องธรรมดา ควรมีการทำความสะอาดรถบ้าง ถึงไม่ได้ใช้ก็ตามที ทั้งภายนอกและภายใน ภายนอกรถจะได้สะอาดพร้อมใช้ ภายในจะได้ไม่มีกลิ่นอับและไม่มีหนูหรือแมลงเข้ามาทำรัง ไม่ต้องบ่อยมากก็ได้ แต่ควรทำบ้างเท่านั้นเอง
    การดูแลรถยนต์
    ถึงจะจอดนานแต่ก็ต้องสะอาดนะ

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าเราจะผ่านสถานะการณ์ ไวรัสโควิดไปแล้ว หมดการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน หรือที่เรียกกันว่าเคอร์ฟิวส์ไปแล้ว การดูแลรถยนต์ ที่ผู้เขียนนำเสนอไป ก็สามารถใช้ได้ในสภาวะปกติ ทำให้เป็นนิสัย รู้ไว้เรื่องการดูแลรถ การใช้รถไม่เสียหายเลย อย่าให้ต้องถึงขั้นถึงเวลาแล้วรถไปเสีย หรือไม่สามารถเอารถออกจากบ้านได้เลย ขอให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน หยุดเชื้อเพื่อชาติกันนะครับ

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *