เรียบเรียงโดย easyinsure.co.th
เมื่อรถถูกกรีด…..ประสบการณ์การเคลมที่อยากจะบอกต่อ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวของอุ้มเอง อุ้มเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำงานกรุงเทพ ที่ทำงานของอุ้มไม่ได้ไกลจากที่ทำงานมากนัก จึงทำให้อุ้มไม่ได้ตัดสินใจซื้อรถเพราะไม่จำเป็นมากนั้น เมื่อไม่นานมานี้อุ้มเองได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นและต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ด้วยเหตุผลนี้เองอุ้มจึงตัดสินใจซื้อรถเพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงาน
แต่แล้วไม่นานมานี้เหตุการณ์ที่อุ้มไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้อุ้มเสียใจมาก เชื่อว่าเจ้าของรถรักรถของตัวเอง โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาอุ้มไม่ได้ออกไปทำงานต่างจังหวัด จึงได้ทำการจดรถไว้ที่หอพักของตัวเองและเดินมาทำงานทุกวัน เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งอุ้มต้องการที่จะเอารถออกไปทำงาน วันนั้นอุ้มเดินไปที่รถสิ่งที่อุ้มตกใจก็คือ รถของอุ้มเกิดมีรอยขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่านั้นไม่ใช่รอยที่เกิดการความไม่ตั้งใจอย่างแน่นอน รอยนั้นเหมือนกับถูกฝาเบียร์มากรีดเป็นร่องลึกลงไป ซึ่งยาวปริมาณ 3 นิ้ว ที่สำคัญตัวอุ้มเองไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เอาไงละทีนี้จอดรถอยู่ที่หอดีๆทำไมกลับมีรอยได้ แล้วแบบนี้อุ้มจะทำยังไง ด้วยความที่ตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงโทรไปถามพนักงาน บริษัทประกันภัยรถยนต์ ว่าเหตุการณ์นี้สามารถที่จะนำรถของเราไปเคลมได้ไหม
หรืออ่าน บทความประกันภัยรถยนต์ ต่อ
เมื่อโทรไปพนักงานก็ใจดีให้คำปรึกษาว่า ในกรณีนี้หากอุ้มเองไม่ทราบว่าเป็นคนไหนทำหรือใครเป็นคนกลั่นแกล้ง ก็อาจจะต้องยุ่งยากในการที่จะแจ้งเคลมสักหน่อย โดยจะมีขั้นตอนในการแจ้งเคลมดังต่อไปนี้ ให้ดำเนินการเจ้งความที่สถานนี้ตำรวจ เพื่อให้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนว่า รถคันนี้ได้ถูกบุคคลอื่นกรีดเป็นรอย หลังจากเมื่อแจ้งความและได้ใบบันทึกมาแล้วก็ให้นำใบบักทึกนั้นไปทำการแจ้งเคลมกับ บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่เราทำไว้ และในกรณีนี้เป็นแผลเป็นแผลที่ลึกไม่สามารถที่จะทำการขัดออกได้จะต้องทำสีเท่านั้น และด้วยเหตุผลนี้เองอุ้มจึงจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าส่วนร่วมเมื่อทำการเคลมด้วย
เมื่อแจ้งเคลมเรียบร้อยแล้ว อุ้มก็ได้ใบเคลมมาจากนั้นก็ได้นำรถไปที่อู่แล้วทำสีใหม่เป็นที่เรียบร้อย ใครจะรู้ว่าเหตุการณ์บางเหตุการณ์ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่บางครั้งก็อาจจะมีคนไม่ชอบหน้าเราก็ได้ มีเพื่อนอุ้มบางคนก็บอกว่าอุ้มเองไปจอดรถทับที่ใครหรือเปล่า หมายถึงการจอทดรถประจำในที่ของเขา แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ประกันภัยรถยนต์ก็สามารถช่วยได้เราเหมือนกันนะค่ะ แต่เราอาจจะต้องมีส่วนร่วมที่จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายร่วมกับทางบริษัทด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรมธรรม ประกันภัยรถยนต์ ที่เราซื้อด้วย ดังนั้นหลังจากซื้อกรมธรรม์แล้วก็ควรที่จะศึกษาให้ดีเสียก่อน ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าการทำประกันจะไม่มีการบังคับให้เราทำ แต่ก็ควรที่จะทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความอบอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นกับของรถเรา