รถกระบะทำประกันแบบไหนดี
รถกระบะเป็นรถยนต์อีกประเภทหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในบ้านเรา สำหรับเรื่อง รถกระบะทำประกันแบบไหนดี ก็เป็นสิ่งที่ชาวนักซิ่งรถกระบะอยากรู้เหมือนกันเพื่อให้รถกระบะของตัวเองได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด วันนี้เราจะมาหาคำตอบกับเรื่องรถกระบะทำประกันแบบไหนดีมาฝากกัน เผื่อใครที่กำลังมองหาทำประกันภัยรถกระบะจะได้ตัดสินใจได้ถูก
ประกันภัยรถยนต์ทุกประเภทไม่ว่าจะประกันชั้น 1, 2+, 2, 3+ และประกันชั้น 3 ก็จะเหมาะกับรถกระบะที่สามารถเลือกทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละประเภทต่าง ๆ ได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป ทั้งนี้ต้องมาพิจารณาต่อว่า เราจะใช้รถกระบะสำหรับประเภทอะไร ที่มีทั้งรถกระบะใช้ส่วนบุคคล และ รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ โดยมีรหัสรถยนต์ที่ระบุในกรมธรรม์ที่แตกต่างกัน รายละเอียดดังนี้
- รหัส 210 รถยนต์ใช้ส่วนบุคคล รถกระบะประเภทนี้ในกรมธรรม์จะระบุรหัส 210 เป็นรถที่ใช้สำหรับบรรทุกสิ่งของไม่เกินกว่า 3 ตัน รวมถึงไม่มีโครงเหล็ก ไม่มีการต่อเติมหลังคา สำหรับการใช้ป้ายทะเบียนต้องเป็นสีขาว ตัวอักษรสีเขียว
- รหัส 320 รถยนต์บรรทุกใช้เพื่อการพาณิชย์ รับจ้าง ให้เช่า รถกระบะประเภทนี้ในกรมธรรม์จะระบุรหัส 320 เป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกขนส่งของและมีการต่อเติมโครงเหล็ก หรือ โครงหลังคา สำหรับป้ายทะเบียนต้องเป็นสีขาว ตัวอักษาสีเขียว
อ่านเพิ่มเติม : รหัสรถยนต์ ในกรมธรรม์ประกันภัย มีความหมายอย่างไร
ทั้งนี้บริษัทประกันจะพิจารณาให้ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 โดยจะให้ความคุ้มครองกับรถกระบะประเภท ส่วนบุคคล เท่านั้น เพราะพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่ารถกระบะประเภทอื่น ๆ เช่น รถกระบะประเภทรถรับจ้าง รถสาธารณะ ทำให้รถกระบะประเภทนี้เลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ แทน
ประกันภัยรถกระบะแบบไหนดี
วิธีเลือกทำประกันภัยรถกระบะจากการใช้งาน
วิธีพิจารณาการเลือกประกันภัยรถยนต์สำหรับรถกระบะตามลักษณะการใช้งาน
- สำหรับรถกระบะคันใหม่ แน่นอนว่าให้เลือกทำประกันภัยประเภทชั้น 1 เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี
- สำหรับรถกระบะที่ใช้ในงานโดยสารสาธารณะ สำหรับรถกระบะที่ใช้งานโดยสาธารณะ ใช้งานหนัก ที่ผ่านการใช้งานมานาน ให้เลือกทำประกันภัยชั้น 3+
- สำหรับรถกระบะที่ใช้ในการขนส่งสินค้า กรณีรถกระบะใช้ในการขนส่งสินค้า ใช้งานหนัก ให้เลือกทำประกันภัยชั้น 2+ เพราะความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 ซึ่งข้อดีคือราคาเบี้ยถูกกว่า
วิธีเลือกทำประกันภัยรถกระบะจากผู้เอาประกันภัย
ประกันแต่ละชั้น เราต้องมาพิจารณาด้วยว่า จะทำประกันชั้นไหนดีเหมาะกับผู้ขับขี่เพื่อให้ความคุ้มครองสูงสุดในราคาเบี้ยที่ไม่แพง ให้พิจารณาจากหัวข้อดังนี้
- พฤติกรรมการขับรถของเราเป็นแบบไหน ให้พิจารณาจาก เรามีความมั่นในในการขับรถขนาดไหน ขับรถชนข้างทางหรือขอบฟุตบาทบ่อยไหม ขับทางไกลบ่อยไหม หรือ ขับแค่เส้นทางเดิม ๆ ระยะใกล้ ๆ เป็นประจำ
- เลือกประกันจาก อายุ สภาพรถเรา ให้พิจารณาจากรถของเราเป็นรถใหม่ป้ายแดงไหมหรือเป็นรถที่ใช้มาซักระยะ 2-6 ปี หรือใช้มานานเลย 7-12 ปี
- เลือกประกันจากที่อยู่และที่จอดรถประจำของเรา ให้พิจารณาจากว่าบ้านของเราอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติไหม เช่นน้ำท่วมบ่อย หรือ ใกล้ไฟป่า หรือ จอดในจุดเสี่ยงลานกว้างที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยรถ
วิธีเลือกทำประกันภัยรถกระบะจากความคุ้มครอง
แล้วประกันแต่ละชั้นเหมาะกับใคร เรามาดูกันว่าประกันแต่ละชั้นจะเหมาะกับผู้ขับขี่ประเภทไหนกัน
- ประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด แน่นอนประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งถอยรถป้ายแดงมาขับ หรือ มือใหม่หัดขับ ผู้ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์การขับขี่มากนัก การทำประกันภัยชั้น 1 จะดูแบและให้ความคุ้มครองสูงสุด สามารถเคลมได้ทุกกรณี ตั้งแต่ชนรถ ชนต้นไม้ ชนรั้ว หรือไม่มีคู่กรณี
- ประกันชั้น 2+ สำหรับผู้ขับขี่มากด้วยประสบการณ์การขับขี่ ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ทั่บรถมาแล้วหลายปี ไม่ห่วงว่าจะต้องขับไปชนต้นไม้ ชนรั้ว เพราะเป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเอง เนื่องจากการทำประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองแค่รถชนกบรถเท่านั้น
- ประกันชั้น 3+ สำหรับผู้มีงบไม่มากแต่มากด้วยความสามารถในการขับขี่ ประกันประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่มีฝีมือในการขับรถอย่างชำนาญ และไม่ค่อยมีงบ เพราะ ประกันชั้นนี้จะให้ความคุ้มครองแต่อุบัติหตุรถชนกับรถเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าทุนประกันภัยชั้น 1 2+
- ประกันชั้น 3 สำหรับรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีรถแต่ไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ เพราะการทำประกันภัยชั้นนี้จะให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด แต่ราคาก็ถูกที่สุด ประกันจะรับผิดชอบความเสียหายของรถฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น รถของคุณต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม : ตารางความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์
ข้อมูลเบื้องต้นเป็นข้อมูลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจว่า รถกระบะทำประกันแบบไหนดี ให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย เราหวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นจากข้อมูลที่เราคัดสรรมาให้ไม่มากก็น้อย
และหากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อเข้ามาหาเราเจ้าหน้าที่อีซี่อินชัวร์โบรกเกอร์ ที่พร้อมจะให้คำแนะนำด้านการประกันภัยรถยนต์แก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับความคุ้มครองสูงสุด แต่ได้ในราคาเบี้ยที่ไม่แพงเลย แถมยังผ่อนชำระได้อีกด้วยในราคาดอกเบี้ย 0 % บริษัทประกันให้เลือกมากกว่า 20 บริษัทประกันภัย หรือ ต้องการเช็คเบี้ยเพื่อเทียบราคาก่อนได้ที่ www.easyinsure.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง
