ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด
ปวดหัวจังเลย ทำไมราคาน้ำมันรถยนต์ขึ้นอีกแล้ว เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำได้คือ วิธี ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด น่าจะเป็นวิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
วิธีขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีเคล็ดลับอยู่หลากหลายข้อ ทั้งนี้อยู่ที่ตัวคนขับเองที่จะทำให้ประหยัดค่าน้ำมันได้ หรือจะไม่ทำ เพราะเคล็ดลับเหล่านี้ล้วนมาแต่พฤติกรรมการขับขี่ทั้งสิ้น หากผู้ขับขี่แก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากเลยทีเดียว
ในยุคที่ข้าวของแพง อาหารข้าวแกง เครื่องใช้ต่าง ๆ รวมถึง ราคาน้ำมันรถยนต์ที่มีแต่ขึ้นเอาไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย ทำให้ผู้บริโภคทั้งหลายต่างต้องดิ้นรนและใช้จ่ายอย่างประหยัดให้มากที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ยิ่งเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่คนอย่างเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ได้แต่รับกรรมและลุ้นว่าเมื่อไหร่ราคาน้ำมันจะมีแต่ลดลง
ดังนั้นเราจึงต้องดูแลตัวเองด้วยการใช้น้ำมันรถยนต์อย่างประหยัดที่สุด ใช้รถเมื่อยามจำเป็น เดินทางแต่ในสิ่งที่ต้องใช้รถเท่านั้น แต่ทั้งนี้เรายังมีวิธีขับรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมันมาฝากกัน รับรองว่าไม่ยากเกินกว่าที่จะทำตามกัน เรามาดูกันเลย
1. สตาร์ทเครื่องยนต์
เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์ขณะที่รถจอดอยู่กับที่ เพียงขับเคลื่อนรถเบา ๆ 1-2 กิโลเมตร เครื่องยนต์จะอุ่นเองไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์แล้ว เพราะการติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 2 นาที สิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี และหลังไฟเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัดดับลงแล้ว คุณก็สามารถเคลื่อนรถออกได้อย่างช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เร่งเครื่องยนต์ทีละน้อย โดยไม่ควรใช้รอบสูง ตรงนี้ทำให้เครื่องยนต์อุ่นตัวได้เร็วขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการเร่งคันเร่งทันทีทันใดบ่อย ๆ
การเร่งเครื่องยนต์ขณะเกียร์ว่าง 10 ครั้งส่งผลให้รถจักรยานยนต์สิ้นเปลืองน้ำมัน 15 ซีซี รถปิกอัพ รถตู้ สิ้นเปลืองน้ำมัน 100 ซีซี รถบรรทุกสิ้นเปลืองน้ำมัน 300 ซีซี หรือเรียกว่าการย่ำคันเร่ง ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมาก
3. เบรกมีผลต่อการกินน้ำมันเชื้อเพลิง
ทุกครั้งที่เราเบรกรถ ความเร็วจะลดถ้าต้องการไปต่อ เราก็ต้องเพิ่มความเร็วหรือเร่งเครื่องขึ้น แต่การปล่อยคันเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อปล่อยให้รถไหล ไม่ใช่เบรกเพื่อปล่อยคันเร่งต่อหรือปล่อยคันเร่งช้าแล้วแตะเบรกและเร่งต่อ จะทำให้เปลืองน้ำมันมากเลย
4. ขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ และไม่เกินป้ายจำกัดความเร็ว
เพราะอัตราความเร็วรถที่เหมาะสมที่จะประหยัดน้ำมันได้มากที่สุดคือ 60-80 กม./ชั่วโมง
5. ควรมีการวางแผนการเดินทางที่ดี
หากคุณวางแผนการเดินทางก่อนว่าจะไปเส้นไหน เส้นไหนรถติดอยู่ ทำทางอยู่ และหลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านั้น จะได้ไม่ต้องขับรถอ้อมมากจนเกินไป ไม่หลงทาง และไม่ขับเลยจุดหมายปลายทาง เท่านี้ก็ลดการสูญเสียน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ไปได้
6. ลดการใช้แอร์
ลดการใช้แอร์รถในช่วงเช้า หรือช่วงที่มีอากาศเย็น หากคุณปิดแอร์รถเป็นเวลา 30 นาที ก็สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 10-15% เลยทีเดียว
7. ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศ
การตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปริมาณน้ำยาทำความเย็น ความสกปรกของคอยล์ร้อนคอยล์เย็น และไส้กรอง เพื่อให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ ถ้าปรับอุณหภูมิต่ำเกินไปคอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
8. ตรวจเช็คความดันลมยาง
การตรวจเช็คความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้ายางลมอ่อนเกินไปจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และยางมีอายุการใช้งานสั้น ขณะเดียวกันหากลมยางแข็งเกินไป รถอาจเกาะถนนไม่ดี และยางก็มีอายุการใช้งานสั้นเช่นกัน ดังนั้นควรให้ความสำคัญของยางเป็นอย่างมากจะช่วยประหยัดน้ำมันได้
9. ดูแลรักษาเครื่องยนต์
การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เป็นการตรวจเช็คและเปลี่ยนอะไหล่ตามที่ผู้ผลิตกำหนด จะทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานได้อย่างประสิทธิภาพ และยาวนาน ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทาง เช่น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีขึ้น
น้ำมันหล่อลื่นเก่า จะทำให้ขาดคุณสมบัติในการหล่อลื่น ระบบระบายความร้อนบกพร่อง ทำให้เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานที่อุณหภูมิที่ผู้ผลิตออกแบบไว้ รอบเครื่องยนต์เดินเบาสูงกว่าที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ทำให้เครื่องยนต์ทำงานมากขึ้นโดยไม่จำเป็น การจุดระเบิดไม่ถูกต้อง ทำให้การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงไม่มีประสิทธิภาพ
10. ห้ามบรรทุกของมากเกินไป
การบรรทุกสัมภาระมากเกินไป มีผลทำให้รถต้องแบกน้ำหนักมากขึ้น มีผลต่อการกินน้ำมันเชื้อเพลิง สิ้นเปลืองการใช้พลังงานเชื้อเพลิงของรถ
11. ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถคอย
การติดเครื่องยนต์จอดรถเป็นเวลา 5 นาทีจะสิ้นเปลืองน้ำมัน 100 ซีซี
หากท่านได้เรียนรู้ถึงวิธี ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด แล้วนั้น นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยเรื่องการถนอมรถของเราให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย ประหยัดพลังงาน ประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ขับรถทางไกล ไปต่างจังหวัด ต้องเช็คอะไรบ้าง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย
สุดท้ายนี้ หากรถมีปัญหาน้ำมันหมดกลางทาง สามารถติดต่อประกันภัยรถยนต์ให้เข้าช่วยเหลือได้หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไว้ ใช้โอกาสในความคุ้มครองนี้ได้เลย ทั้งนี้หากคุณมีข้อสงสัยอะไรประการใดสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อีซี่อินชัวร์โบรกเกอร์ ได้ มีทีมงานมืออาชีพคอยช่วยเหลือท่านทุกวินาทีตลอด 24 ชั่วโมง บริการประทับใจเพราะคุณคือคนสำคัญของพวกเราชาวอีซี่อินชัวร์