ประกันรถยนต์รายวัน
เชื่อแน่ว่ายังมีอีกหลายคนที่สงสัยกับการทำประกันภัยรถยนต์ ยิ่งปัจจุบันมีเลือกให้ทำประกันแบบ ประกันรถยนต์รายวัน กับ ประกันรถยนต์รายปีด้วยแล้ว ยิ่งสงสัยกันไปใหญ่ว่ามันคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับผู้ใช้รถยนต์แบบไหน ตัดสินใจไม่ถูกเลย และไม่เข้าใจด้วยทำให้ยิ่งสับสนกันไปใหญ่
ก่อนเจาะลึกถึงประเด็นและการเปรียบเทียบว่าประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี แบบไหนดี เหมาะกับคุณหรือไม่ คงต้องมาทำความรู้จักกับประกันรถยนต์รายวัน หรือ ประกันภัยรถยนต์แบบชั่วคราว กันก่อนเพื่อให้การตัดสินใจซื้อนั้นง่ายขึ้น
ประกันภัยรถยนต์รายวัน มีชื่อเรียกหลายชื่อ ประกันรถเติมเงิน, ประกันรถระยะสั้น, ประกันรถชั่วคราว, ประกันรถตามไมล์, ประกันรถเปิดปิด และประกันรถรายวัน
คือ เป็นประกันรถยนต์แบบสั้น ๆ ที่ผู้ซื้อสามารถเลือกระยะเวลาได้เอง เลือกจำนวนเงินที่อยากจะจ่ายได้ คุ้มงบประมาณได้เอง ถูกใจคนรักความประหยัด เหมาะสำหรับคนงบน้อย ขับรถไม่บ่อย หรือคนที่ใช้รถแค่ไปขับส่งลูกที่โรงเรียน รวมทั้งขับไปธุระถิ่นไม่อยากจ่ายเบี้ยแพง มักจะเลือกประกันรถยนต์ชั่วคราวแบบนี้ เพราะรู้ว่าจะใช้รถยนต์แค่เวลาไหน จะใช้เมื่อไหร่ ทำให้ควบคุมความคุ้มครองได้ง่าย
เรามาวิเคราะห์การเลือกซื้อประกันรถยนต์ขึ้นอยู่กับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณกันก่อน ดังนั้นต้องถามตัวเราเองก่อนว่า
- ใช้รถยนต์บ่อย ๆ ต้องเดินทางประจำ ต้องขับรถทำงานทุกวัน เราขอแนะนำให้ซื้อประกันรถยนต์จ่ายครั้งเดียวคุ้มครองทั้งปีจะคุ้มค่ากว่า เช่น นักธุรกิจ มนุษย์เงินเดือนที่ต้องขับรถทุกวัน แนะนำซื้อประกันรถยนต์ที่จ่ายรายปี จ่ายครั้งเดียว คุ้มครองทั้งปีจะดีกว่า ซื้อครั้งเดียวจบ สามารถขับขี่ได้อย่างสบายใจ ตลอดระยะเวลาความคุ้มครอง ไม่ต้องวุ่นวายคอยต่อความคุ้มครองหรือกังวลว่าประกันรถยนต์ของเราจะหมดวันไหน
- แต่ถ้าคุณใช้รถยนต์ไม่บ่อย เช่น ใน 1 สัปดาห์ใช้รถแค่ 1-2 วัน ซึ่งส่วนใหญ่จอดไว้บ้าน หรือผู้ที่มีรถยนต์หลายคันวิ่งต่ำกว่า 10,000 กิโลเมตรต่อปี แนะนำให้ลองการซื้อประกันเติมเงิน หรือ ประกันตามไมล์ จะเหมาะกับคนที่มีงบประมาณน้อย เพียงแต่คุณต้องจดจำวันคุ้มครองให้ดี ห้ามลืมวันหมดอายุกรมธรรม์ เพราะว่าการใช้งานนั้นใกล้เคียงกับการใช้โทรศัพท์แบบเติมเงิน โดยเราต้องหมั่นตรวจสอบเสมอ ต้องมีโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาที่เราขับรถยนต์
ประกันรถยนต์แบบรายวัน ดีกว่าแบบรายปีอย่างไร
ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่าง มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ระหว่างประกันรถยนต์ทั่วไป หรือประกันรถแบบรายปี กับประกันรถยนต์แบบรายวัน ว่าแบบไหนจะดีและเหมาะสมกับคุณ เพื่อการทำประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่ามากที่สุด ไปดูกันเลย
- การต่อประกันภัยรถยนต์
- ประกันรถยนต์แบบรายปี – คุณสามารถต่อประกันรถกับเจ้าหน้าที่หรือโบรกเกอร์ได้ตัวเอง สามารถรับกรมธรรม์และความคุ้มครองได้ทันที รวมถึงอาจจะได้รับส่วนลดอื่น ๆ ตามเงื่อนไขเพิ่มเติม
- ประกันรถยนต์แบบรายวัน – ครั้งแรกต้องต่อประกันรถกับเจ้าหน้าที่ประกันภัย และต่อมาต้องเติมเงินเพื่อต่ออายุประกันรถด้วยตนเองผ่านตามเงื่อนไขที่แต่ละบริษัทหรือโบรกเกอร์กำหนดไว้
- ค่าเบี้ยประกันรถยนต์
- ประกันภัยรถยนต์แบบรายปี – ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ขึ้นอยู่กับประกันที่เลือก ได้แก่
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 – เบี้ยค่อนข้างสูง แต่ ได้รับความคุ้มครองสูงสุด
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ – เบี้ยไม่แพง แต่ได้รับความคุ้มครองแค่ใกล้เคียงกับชั้น 1
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ – เบี้ยประหยัดที่สุด แต่ ได้รับความคุ้มครองน้อยมาก
- ประกันภัยรถยนต์แบบรายวัน – เลือกความคุ้มครองได้เอง เช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ โดยเบี้ยประหยัดกว่าประมาณ 30-40% เพราะเลือกจ่ายได้เอง
- ประกันภัยรถยนต์แบบรายปี – ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ขึ้นอยู่กับประกันที่เลือก ได้แก่
- ระยะเวลาการคุ้มครองรถยนต์
- ประกันภัยรถยนต์รายปี – คุ้มครองตลอด 1 ปี ทุกวัน 24 ชั่วโมง ขับไปไหนก็ดูแลตลอดเส้นทาง ( เฉพาะในราชอาณาจักรไทย )
- ประกันภัยรถยนต์รายวัน – คุ้มครองเฉพาะวันที่ซื้อประกัน นับเป็นชั่วโมง และต้องเปิดความคุ้มครองทุกครั้งที่ใช้รถยนต์
- ระยะเวลาของเบี้ยที่คุ้มครอง
- ประกันรถยนต์รายปี – จ่ายเบี้ยครั้งเดียว แต่ต้องจ่ายทุกปีที่ต่อประกัน ประกันรถยนต์ที่บางแห่งมีบริการผ่อนจ่ายให้ด้วย ตามแต่เงื่อนไขของบริษัทฯ หรือโบรกเกอร์ประกันภัยนั้น ๆ
- ประกันรถยนต์รายวัน – ซื้อได้ตามความต้องการ มีระยะเวลาให้เลือกตั้งแต่ 1-12 เดือน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทฯ หรือโบรกเกอร์ประกันภัยนั้น ๆ
ประกันรถยนต์รายวันที่ไหนดี
เริ่มเห็นภาพรวมของการทำประกันรถยนต์รายปี และ ประกันรถยนต์รายวัน กันบ้างแล้วว่าแต่ละประกันรถยนต์ชนิดใดที่จะเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของเราต้องคำนวณให้ดีก่อนซื้อประกันรถยนต์ทุกครั้ง แต่เพื่อคำแนะนำที่ดีว่าจะทำที่ไหนดี หรือ วิธีการทำประกันรถยนต์อย่างไรดี
สามารถปรึกษากับบริษัท หรือ โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์แต่ละแห่งที่จะให้คำแนะนำที่ดีกับคุณ รวมถึงมีประกันภัยรถยนต์แต่ละบริษัทประกันภัยให้คุณได้เลือกมากกว่า 30 บริษัทก่อนการตัดสินใจ ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณที่กำลังคิดจะทำประกันภัยรถยนต์
ซึ่งอย่าลืมนะว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอทุกวันเวลาทุกสถานที่ ไม่มีใครคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ดังนั้นการเลือกทำประกันภัยรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้รถยนต์ โดยจะมีบริษัทหรือโบรเกเกอร์ประกันภัยให้ความคุ้มครองดูแลอย่างใกล้ชิดต่อคุณอยู่เสมอ