ค่าเสียหายเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ Easyinsure มีสาระดีๆมาฝาก สำหรับค่าเสียหายที่เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ ว่ามีค่าเสียหายรูปแบบใดบ้าง ซึ่งแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของสัญญาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย และอุบัติเหตุแต่ละรูปแบบ ซึ่งค่าเสียหายต่างๆเป็นสิ่งที่เพื่อนๆต้องรู้ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ค่าเสียหายจะเข้ามาเกี่ยวข้องทันที ดังนั้นเรามาดูว่า ประกันภัยรถยนต์มีค่าเสียหายอะไรบ้าง ?
ค่าเสียหายส่วนแรก
ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าเสียหายที่เรียกเก็บกับผู้เอาประกันภัยเมื่อรถคันที่เอาประกันภัยเกิดอุบัติเหตุและมีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งค่าเสียหายดังกล่าวมักพบปัญหาว่า “ผู้เอาประกันไม่ยอมจ่าย” เพราะคิดว่าทำประกันแล้วจะต้องจ่ายอะไรอีก และนั่นก็คือความคิดที่ผิดมากๆเลยทีเดียว เพราะก่อนทำประกันภัยเราลืมอ่านหรือไม่ว่า “สัญญากรมธรรม์ประกันภัย” ของเราระบุไว้ว่าอะไรบ้าง โดยกฎของค่าเสียหายส่วนแรก จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ค่าเสียหายส่วนแรกแบบตามการเลือกรับ (Deductible)
- ค่าเสียหายส่วนแรกแบบตามเงื่อนไข (Excess)
ทั้งสองประเภทคือค่าเสียหายส่วนแรก ที่คล้ายคลึงกันแต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พูดแล้วเพื่อนๆก็คงงงๆว่าตกลงคืออะไรกันแน่ เรามาดูความหมายของแต่ละประเภทกันดีกว่า
1.ค่าเสียหายส่วนแรกแบบตามการเลือกรับ (Deductible)
ค่าเสียหายแบบ Deductitle คือ ค่าเสียหายส่วนแรกของประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่จะระบุไว้ในกรมธรรม์ตั้งแต่แรกเลยว่า ผู้เอาประกันภัยจะต้องมีส่วนร่วมกับค่าเสียหายส่วนแรกเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ซึ่งถ้าผู้เอาประกันภัยขับรถไปเกิดอุบััติเหตุและมีความเสียหายเกิดขึ้น จะต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ระบุ เช่น ระบุค่าเสียหายส่วนแรกไว้ว่า 3,000 บาท ค่าเสียหายของรถที่เอาประกันภัยคิดออกมาเท่ากับ 8,000 บาท ผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระค่าเสียหาย 3,000 บาท ส่วนอีก 5,000 บาทบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบนั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากค่า Excess ดังนี้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductitle) คืออะไร
2.ค่าเสียหายส่วนแรกแบบตามเงื่อนไข (Excess)
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประกาศเงื่อนไขของค่าเสียหายส่วนแรกดังนี้ “ค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องร่วมรับผิดชอบกับบริษัทประกันภัยเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท หากมีการขอเคลมตามเงื่อนไขที่กำหนด อาทิเช่น ขอเคลมสีรอบคัน หรือเคลมแบบไม่มีคู่กรณี” ซึ่งค่า Excess ส่วนแรกจะเรียกเก็บตามความเสียหายเฉพาะจุด ยกตัวอย่างเช่น เศษหินกระเด็นโดนชุดสีตรงฝากระโปรง 2 จุด ก็เรียกเก็บ 2,000 บาทเป็นต้น (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย)
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) คืออะไร
แม้ว่าการทำประกันภัยรถยนต์จะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวสำหรับทุกคน แต่เงื่อนไขต่างๆเชื่อว่าหลายคนไม่รู้ว่าแต่ละเงื่อนไขต้องทำอย่างไรบ้าง หรือบางคนเกิดอุบัติเหตุแล้วพึ่งจะเอากรมธรรม์ออกมานั่งอ่าน โดยเฉพาะเรื่องของ ค่าเสียหายส่วนแรก ดังนั้นอย่าปล่อยให้เกิดเหตุแล้วถึงจะหาข้อมูล หากเป็นประโยชน์อย่าลืมแชร์ให้กับเพื่อนๆได้เลย วันนี้ฝากเอาไว้เท่านี้ก่อนนะ ติดตามกันไว้มีข้อมูลดีๆมาบอกทุกวันแน่นอน
Pingback: ต่อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี มาดูข้อดีของการต่อที่เดิมและที่ใหม่ - Easyinsure