10 เหตุผลทำไม แบตเตอรี่เสื่อม หรือหมดอายุการใช้งานก่อนกำหนด

แบตเตอรี่เสื่อม

แบตเตอรี่รถยนต์โดยปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี เมื่อครบกำหนดควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ทันที เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาภายหลัง เช่น แบตเตอรี่เสื่อม แบตเตอรี่ระเบิด รวมถึงทุกปัญหาที่เกิดจากการผิดพลาดของแบตเตอรี่เอง หรือการใช้งานของแต่ละคน แต่ทุกปัญหาย่อมมีวิธีแก้ ดังนั้น.. เรามาดูกันครับว่าปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

เหตุผลที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม

• ใช้งานแบตเตอรี่เกินกำหนด

ผู้ใช้งานควรเช็คระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ตามกำหนด โดยส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี ดังนั้นหากคุณฝืนใช้งานต่อไป อาจทำให้อะไหล่รถยนต์ส่วนอื่น ๆได้รับความเสียหาย หรือเกิดระบบไฟฟ้ารวนได้

• ระบบแอร์ทำงานผิดปกติ

ระบบแอร์ทำงานผิดปกติ เกิดจากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั่นก็คือการเปิดแอร์ภายในรถยนต์เป็นระยะเวลานาน จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนัก และเสื่อมสภาพลงได้ ดังนั้นหากต้องขับรถระยะทางไกล ๆ หรือต่อเนื่อง ควรจะจอดพักรถบ้าง นอกจากได้พักรถแล้ว ตัวเราเองก็ได้ยืดเส้นยืดสาย แก้อาการปวดเมื่อยในการนั่งขับขี่เป็นระยะเวลานานอีกด้วย

• เปิดไฟในห้องโดยสารทิ้งไว้

ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์จะออกแบบการทำงานของระบบไฟฟ้าในห้องโดยสาร หากผู้ขับขี่ออกจากรถและทำการล็อกรถเรียบร้อยแล้ว ระบบไฟฟ้าจะตัดทั้งหมด ดังนั้นปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ แต่รถรุ่นเก่าจะต้องไม่ละเลยเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในห้องโดยสาร นอกจากจะทำให้แบตเตอรี่หมดแล้ว หากเกิดแบบนี้บ่อยครั้งจะทำให้ แบตเตอรี่เสื่อม และไม่เก็บไฟในที่สุด

• ใช้รถไม่ต่ำกว่า 12 ชม. / วัน

เมื่อเปรียบเทียบกับร่างกายของเรา หากคุณใช้งานตนเองโดยไม่หลับไม่นอนตลอดทั้งวัน ร่างกายของคุณจะรู้สึกอ่อนล้า ไม่มีเรี่ยวแรงในการทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แบตเตอรี่ก็เช่นกัน แม้แบตเตอรี่และอะไหล่รถยนต์ส่วนต่าง ๆ จะเป็นจักรกล แต่ถ้าเราใช้งานหนักเกินไปจะทำให้เสื่อมสภาพลง ดังนั้นหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำว่าตรวจเช็คน้ำกลั่นสม่ำเสมอนะครับ

• เติมน้ำกลั่นต่างประเภทลงไปในแบตเตอรี่

เชื่อหรือไม่ครับว่า การเติมน้ำกลั่นลงไปในแบตเตอรี่ ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันแบตเตอรี่น้ำแห้งสำหรับแบตเตอรี่ชนิดน้ำ แต่ถ้าเติมบ่อย ๆ และเติมต่างชนิดลงไป อาทิเช่น สีขาว และสีชมพู ยี่ห้อแตกต่างกัน แม้ส่วนผสมจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่เสมอไป ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ง่ายมากขึ้น

• ชาร์จไฟในรถยนต์

หลายท่านเคยชาร์จเครื่องมือสื่อสาร หรือแบตสำรองในรถยนต์ การกระทำแบบนี้จะช่วยให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ไวมากขึ้น เพราะว่าการชาร์จไฟในรถจะดึงพลังงานไฟฟ้าที่แบตเตอรี่เก็บไว้มาใช้งานมากขึ้น ดังนั้นหากไม่จำเป็นพยายามอย่าชาร์จไฟในรถกันนะครับ

• จอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน

การจอดรถทิ้งไว้ หรือไม่ค่อยได้ขับรถคันนั้น ๆ แบตเตอรี่จะไม่เกิดการเก็บไฟ เพราะการขับขี่รถยนต์แบตเตอรี่จะชาร์จพลังงานในตัว ซึ่งวิธีป้องกันง่าย ๆ หากไม่จำเป็นต้องขับขี่รถคันนั้นไปไหน หรือไม่ค่อยได้ขับ คือการสตาร์ทรถทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีเพื่อให้แบตเตอรี่ได้ชาร์จไฟนั่นเอง

• แบตเตอรี่เก่า

แบตเตอรี่เก่า หรือแบตเตอรี่มือสอง ไม่ควรนำมาใช้งานกับรถยนต์ของเรา โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่เกิดจากการใช้งานเป็นระยะเวลานาน หรือใกล้จะหมดอายุ หรือหมดอายุการใช้งานไปแล้ว อย่าลืมว่าหากรถยนต์ของคุณแบตหมดกลางทาง ราคาค่าจ้างรถยกแพงกว่าแบตเตอรี่ชิ้นนึงนะครับ

• ไดร์ชาร์จชำรุด

ไดร์ชาร์จ หรือเรียกว่า ไดนาโม คือตัวชาร์จไฟแบตเตอรี่ หากเกิดการชำรุด เพื่อน ๆ จะต้องเข้าซ่อมทันที ป้องกันแบตเตอรี่ไม่เก็บพลังงาน ดังนั้นถามว่าไดร์ชาร์จสำคัญไหม ผมตอบเลยว่าสำคัญสุด ๆ ไปเลยครับ

• ขั้วแบตเตอรี่ชำรุด

หากขั้วแบตเตอรี่ชำรุด ไม่สามารถทำประจุไฟกับขั้วต่อแบตรถยนต์ได้ จะต้องนำแบตเตอรี่เข้าไปเปลี่ยน หรือซื้อแบตเตอรี่ใหม่หากเปลี่ยนไม่ได้ ดังนั้นหากแบตเตอรี่รถยนต์ไม่เก็บไฟ หรือรถสตาร์ทไม่ติด อย่าพึ่งคิดว่า แบตเตอรี่เสื่อม หรือหมดอายุนะครับ ดูดี ๆ ก่อน หากเปลี่ยนไปแล้วเหมือนเดิม เท่ากับว่าเสียเงินฟรีกันเลยนะ อีซี่จิ๊บ ๆ จะบอกให้

---

แนะนำโดย : Easyinsure.co.th