เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์
การทำประกันรถยนต์จะมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปีเต็มถึงจะต่ออายุหนึ่งครั้ง แต่พอใกล้จะหมดปีจะมีหลายคนที่ติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์และ เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ แห่งใหม่ แต่การขอยกเลิกกรมธรรม์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่อยู่ที่ทำไมถึงต้องขอยกเลิกแล้วย้ายบริษัทประกัน เหตุผลมาจากอะไร โดยคัดมาจาก 5 อันดับแรกดังนี้
บริการไม่เป็นที่น่าพอใจ
บริการหลังการขาย เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ แม้ว่าจะหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์กับแหล่งกระทู้ชื่อดังอย่าง pantip หรือตามรีวิวต่าง ๆ เพราะแต่ละคนจะเจอบริการไม่เหมือนกัน เจ้าหน้าที่บริษัทประกันแต่ละคนมีนิสัยต่างกัน บางคนบริการด้วยใจ บางคนบริการแบบขอไปที จึงมีข้อถกเถียงกันว่าที่นี่ดีที่นี่ไม่ดี แล้วเราจะทำประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดีล่ะ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาทางด้านบริการตอนเกิดเหตุ การเคลม เคลมไม่ดีบ้าง เจ้าหน้าที่บริการไม่ดีบ้าง ทำให้เสียความรู้สึกและไม่อยากทำที่เดิมอีก
ความคุ้มครองไม่คุ้มค่า
ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดปัญหากับประกันชั้น2+ เพราะตอนเลือกทำเห็นว่าถูกกว่าประกันชั้น 1 และคุ้มครองไม่แตกต่างกันมากนัก แต่พอเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ กลับพบว่าความคุ้มครองไม่สามารถช่วยอะไรตามที่หวังไว้ หรือไม่เหมาะกับรถของเรา ก็เลยคิดจะเปลี่ยนบริษัทประกัน หรือขอเปลี่ยนกรมธรรม์ประกันภัยใหม่
พบข้อเสนอที่ดีกว่า
ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ แข่งขันกันแบบดุเดือดเพื่อแย่งชิงลูกค้ากัน โดยเฉพาะช่วงปลายปีจะมีโปรโมชั่นซื้อประกันภัยรถยนต์ ผ่อน 0% นาน 10 เดือนแถมกล้องแบบ Full HD ยังไม่หมดแถมส่วนลดซื้อของต่าง ๆ อีก หรือบัตรดูหนังฟรี ทำให้เป็นการดึงดูดลูกค้าจากที่อื่น เพราะคิดว่าจ่ายเท่ากัน แต่ทำไมที่อื่นถึงมีความคุ้มครอง และบริการที่ดีกว่า แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมาล่อตาล่อใจเรา แต่ถ้ามองในทางกลับกันเวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นควรเลือกบริษัทประกันที่ดี ความคุ้มครองที่ดี และหลากหลาย เพื่อความสบายใจในการขับขี่นะครับ
ขายรถคันที่เอาประกันภัย หรือเปลี่ยนรถระหว่างปี
เป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นบ่อยครั้งในวงการประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากการขายรถหรือเปลี่ยนรถใหม่ระหว่างปี โดยประกันภัยรถยนต์ยังไม่หมดอายุกรมธรรม์ จะต้องแจ้งกับทางบริษัทประกันภัยให้แก้ไขกรมธรรม์ หรือยกเลิกกรมธรรม์ เพราะบางครั้งรถใหม่ป้ายแดงจะมีประกันภัยรถยนต์แถมมาให้ ทำให้เราไม่ต้องการใช้ที่เดิมอีกต่อไป หรือขายรถไปแล้วก็เลยขอยกเลิกเพื่อได้เงินส่วนต่างคืนนั่นเอง
เจ้าของรถเสียชีวิต
เมื่อเจ้าของรถเสียชีวิต หากเจ้าของรถทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อ ชื่อของเจ้าของรถจะหยุดคุ้มครองทันที แต่ความคุ้มครองเกี่ยวกับรถยนต์จะยังอยู่ ดังนั้นทายาทจะต้องมาแจ้งขอเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อตนเอง หรือขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อขอเงินคืน
แม้ว่าเหตุผลจะแตกต่างกันมากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายการ เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ หรือเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์ จะต้องดูรายละเอียดให้ดี และเปรียบเทียบกับแห่งใหม่ว่าระหว่างอยู่ที่เดิม กับเปลี่ยนที่ใหม่ แบบไหนคุ้มกว่ากัน เพราะในบางทีแล้ว คุณเปลี่ยนไปบริษัทประกันแห่งใหม่ อาจเจอบริการที่แย่กว่า หรือความคุ้มครองที่ไม่คุ้มค่ากับคุณกว่าที่เดิมก็เป็นได้
แนะนำโดย : Easyinsure.co.th
