ต่อประกันรถยนต์
ใครที่ประกันรถยนต์กำลังจะหมดความคุ้มครองก็อย่าลืมทำเรื่องต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า พร้อมกว่าได้เปรียบกว่า ! บางคนก็อาจจะสับสนว่าเอ๊ะ ! ชั้นควร ต่อประกันรถยนต์ ชั้นไหนดี ปีที่แล้วทำประกันรถชั้น 1 เอาไว้เพราะเค้าแถมมาให้ตอนถอยรถใหม่ แต่ปีนี้ควรจะต่อประกันรถชั้น 1 เหมือนเดิม หรือไปทำ 2+ , 3+ ดี เดี๋ยวลองสำรวจตัวเองกันก่อนเลย ว่าประกันรถยนต์แต่ละประเภทเหมาะกับใครบ้างค่ะ..
ประกันรถยนต์แต่ละแบบเหมาะกับใคร ?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับ..
- นักขับมือใหม่
- คนที่ยังไม่ค่อยมั่นใจในการขับขี่
- ขับรถเดินทางเป็นประจำ ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล
- จอดรถในพื้นที่เสี่ยงต่อการโดนขโมย
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับ..
- คนที่ขับรถเป็นประจำ ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล
- มีความระมัดระวังในการขับขี่ ไม่เคยเกิดเหตุชน
- จอดรถในพื้นที่เสี่ยงต่อการโดนขโมย
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะกับ..
- รถที่ขับมานานหลายปี
- ผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่โชกโชน
- ไม่เคยแจ้งเคลมประกันรถยนต์เลย
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เหมาะกับ..
- รถที่ขับมานาน 15-20 ปีขึ้นไป
- รถที่ไม่ค่อยได้ขับเป็นประจำ
- ผู้ที่มั่นใจในการขับขี่ของตนเอง
เมื่อรู้ตัวเองเหมาะกับการต่อประกันรถยนต์แบบไหนแล้ว เดี๋ยวมาดูความคุ้มครองคร่าว ๆ ของประกันภาคสมัครใจแต่ละประเภทกันค่ะ..
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์
ประกันชั้น 1 : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชน + รถหาย + รถไฟไหม้ + น้ำท่วม
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ราคาเบี้ยประกันแพงสุดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะรถชนรถ หรือขับซุ่มซ่ามไปถอยชนประตู ต้นไม้ ก็คุ้มครอง แต่ก็ใช่ว่าจะคุ้มครองทุกกรณี มีบางกรณีที่ประกันรถชั้น 1 ไม่คุ้มครองเหมือนกัน
ประกันชั้น 2+ : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชนรถ + รถหาย + รถไฟไหม้ + น้ำท่วม (บางแผนเท่านั้น)
หากมองหาประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ต้องประกันชั้น 2 พลัสเลยค่ะ ราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 เกือบเท่าตัว ต่างกันตรงที่ประกันชั้น 2+ จะแจ้งเคลมประกันไม่ได้ถ้าเราเซ่อซ่าถอยรถไปชนเสา ประตู ฯลฯ เคลมได้เฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น
ประกันชั้น 3+ : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชนรถ + น้ำท่วม (บางแผนเท่านั้น) ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
จะคุ้มครองรถยนต์เฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น ชนอย่างอื่นแบบไม่มีคู่กรณีจะแจ้งเคลมประกันไม่ได้เลย ส่วนความคุ้มครองน้ำท่วมจะมีเป็นบางบริษัทประกันเท่านั้น ถ้าอยากได้ความคุ้มครองน้ำท่วมก็ลองแย๊บ ๆ ถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลงานดูละกัน
ประกันชั้น 3 : ซ่อมเขา ไม่ซ่อมรถเรา ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
ให้ความคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีของเราเท่านั้น แต่ถ้าไม่อยากจะต่อประกันรถยนต์ นี่ขอบอกเลยว่าควรทำประกันชั้น 3 ติดไว้ก็ยังดี อย่างน้อย.. ก็คุ้มครองค่าซ่อมรถคู่กรณีของเรา เราจะได้ไม่ต้องควักเงินจ่ายค่าเสียหายคนเดียวแบบเต็มจำนวน
ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี
ไม่ว่าจะทำประกันใหม่ครั้งแรก หรือต่อประกันรถยนต์ครั้ง 2 3 4… ก็มีตัวเลือกอยู่แค่ 2 แบบ คือ ทำผ่านบริษัทประกันภัยโดยตรง ทำผ่านบริษัทโบรกเกอร์ หรือผ่านตัวแทนต่าง ๆ
ถ้าทำประกันรถยนต์ผ่านบริษัทประกันสิ่งนึงที่มั่นใจได้เลย คือ ไม่โดนหลอกเชิดเงินไปแน่นอน เพราะยังไงก็ได้รับความคุ้มครองชัวร์ แต่อาจจะมีเงื่อนไขเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างคนที่ต้องการทำประกันแบบผ่อนเงินสด ส่วนใหญ่บริษัทประกันจะไม่ค่อยมีนโยบายให้ชำระเงินในลักษณะนี้สักเท่าไหร่
ส่วนใครที่ทำประกันผ่านโบรกเกอร์ประกันก็สบายใจได้เลย ว่าจะได้ต่อประกันรถยนต์ราคาถูกกว่าบริษัทประกันชัวร์ มีสิทธิพิเศษ โปรโมชั่น บริการเสริมพรึ่บพรั่บ เช่น ผ่อนประกันเงินสด ไม่ใช้บัตรเครดิต , ฟรี ! รถใช้ระหว่างซ่อม , รับแจ้งเหตุ 24 ชม. ฯลฯ แต่ยังไงก็ต้องเลือกโบรกเกอร์ดี ๆ เพราะถ้าเห็นแก่ของถูกเกินไป หรือไม่เช็คข้อมูลโบรกเกอร์นั้นก่อน ระวัง ! อาจจะถูกโบรกเกอร์ผี หลอกเชิดเงินได้
หวังว่าเรื่องราวที่แนะนำมา จะพอเป็นแนวทางสำหรับการ ต่อประกันรถยนต์ นะคะ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ประกันภัยขาดต่ออายุโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะเกิดเหตุชนขึ้นได้ ต่อประกันรถ เอาไว้ล่วงหน้า ยังไงก็อุ่นใจกว่าแน่นอน ด้วยรัก และปรารถนาดีจาก อีซี่ อินชัวร์..
Pingback: ต่อ พรบ. รถยนต์ ใช้อะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ | ถ้าไม่รีบต่อเตรียมถูกปรับได้เลย !
Pingback: เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ เพิ่มความคุ้มค่าราคาถูกในการทำประกัน