ปัญหาเรื่องรถยนต์ถูกขโมยถือว่าเป็นเรื่องสยดสยองที่คนมีรถส่วนใหญ่ภาวนาไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เรามักจะเห็นข่าวตามทีวีกันเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องรถถูกขโมย อย่างว่าแหละเนาะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีขโมยขโจรก็จะเยอะขึ้นเป็นพิเศษ สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องไม่ประมาท พร้อมกับหาวิธีป้องกันต่างๆ เช่น ล็อกรถทุกครั้งเมื่อลงจากรถยนต์ ไม่เสียบกุญแจรถยนต์ค้างไว้ และอีกวิธีที่น่าสนใจก็คือการทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้นั่นเอง
ประกันรถยนต์ชั้นไหนบ้าง? ที่คุ้มครองเมื่อรถหาย
เรามาดูความคุ้มครองแบบย่อๆ ของประกันรถยนต์ภาคสมัตรใจแต่ละแบบกันอีกที
- ประกันชั้น 1 : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชน + รถหาย + รถไฟไหม้
- ประกันชั้น 2+ : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชน (รถชนรถเท่านั้น) + รถหาย รถไฟไหม้
- ประกันชั้น 3+ : ซ่อมเขา+ ซ่อมเรา + รถชน (รถชนรถเท่านั้น) + ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
- ประกันชั้น 3 : ซ่อมเขา ไม่ซ่อมรถเรา ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
- ประกันชั้น 2 : ซ่อมเขา + ไม่ซ่อมเรา + คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
สรุปสั้นๆ ถ้าต้องการทำประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเรื่องรถยนต์หายให้เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1,2+,2 แต่ประกันชั้น 2 จะไม่ให้ความคุ้มครองรถเราเมื่อเกิดเหตุการชน พูดแบบบ้านๆ คือ ถ้าทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ไว้ แล้วเราขับรถไปชนจนรถเราได้รับความเสียหาย ประกันชั้นสองที่ทำไว้จะไม่คุ้มครองเรื่องการชนเลย แต่ถ้ารถหายหรือรถไฟไหม้ก็จะคุ้มครองปกติ ประกันชั้นสองถือว่าเป็นประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ค่อยมีความคุ้มค่าสักเท่าไหร่
ความคุ้มครองของประกันรถยนต์
ความคุ้มครองหลักของประกันภัยรถยนต์ก็คงไม่พ้นเรื่องตัวรถยนต์อย่างแน่นอน ซึ่งประกันภัยรถยนต์ก็จะให้ความคุ้มครองตัวรถยนต์ดังนี้
- คุ้มครองการชน : จะคุ้มครองรถยนต์จากการชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถชนรถ หรือขับรถชนสิ่งอื่นๆ เช่น ถอยรถชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า ฯลฯ
- คุ้มครองรถสูญหาย : คุ้มครองรถยนต์เมื่อรถยนต์ถูกขโมย แบบที่เราเห็นในข่าวกันเป็นประจำ
- คุ้มครองรถไฟไหม้ : คุ้มครองรถยนต์เมื่อเกิดไฟไหม้
- คุ้มครองน้ำท่วม : คุ้มครองรถยนต์เมื่อได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน (มีเฉพาะประกันชั้น 1 และประกันชั้น 2+,3+ บางแผนเท่านั้น)
ถ้าอยากทำประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมก็ขอแนะนำเป็นประกันชั้น 1 เพราะไม่ว่าจะขับรถชนรถ ชนประตู ชนเสา ประกันชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครอง แต่ถ้าอยากได้ประกันที่มีความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ขอแนะนำเป็นประกันชั้น 2+ ละกัน โดยประกันชั้นสองพลัสก็ฮอตฮิตไม่แพ้ประกันรถยนต์ชั้น 1 เลยแหละ เพราะมีค่าเบี้ยประกันถูกกว่าเท่าตัว ความคุ้มครองก็ใกล้เคียงประกันชั้น 1 ต่างกันแค่ถ้าทำประกันชั้น 2+ แล้วขับรถไปชนสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ เช่น ชนกระถาง ประตู แบบนี้ประกันชั้น 2+ เคลมไม่ได้
เมื่อเสียเงินซื้อ หรือผ่อนรถยนต์แล้วก็ขอแนะนำว่าให้ทำประกันรถยนต์เถอะน้า เพราะนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการซ่อมรถยนต์แล้ว หากรถยนต์ถูกขโมยขึ้นมาก็จะมีค่าชดเชยในส่วนนี้ให้อย่างแน่นอน สามารคลิกที่นี่เพื่อเช็คเบี้ยประกันรถออนไลน์ได้ฟรี! มีให้เลือกมากกว่า 20 บริษัทตามที่คุณต้องการนะจิ๊บ
เรียบเรียงโดย : Easyinsure.co.th