รถโดนทุบกระจก แถมของยังหาย…บริษัทประกันภัยจะจ่ายมั้ย?
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ต้องยอมรับว่ามิจฉาชีพมีชุกชุมพอๆ กับยุง เราจึงได้เห็นข่าวโจรขึ้นบ้าน โจรงัดรถ ทุบกระจกเพื่อชิงทรัพย์ หรือแม้กระทั่งขโมยรถหายไปทั้งคันเลยก็มีออกข่าวให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ จะจอดรถทิ้งไว้ที่ไหนจึงต้องระมัดระวังตรวจตราให้ดี อย่างซอยเปลี่ยวหรือที่ลับตาคนไม่ควรไปจอดอย่างยิ่ง ก็ขนาดจอดในที่ชุมชนหรือในห้างที่มียามเดินตรวจตราตลอด รถยนต์ยังหายกันรายวัน แล้วไปจอดในที่ไม่มีคนแบบนั้นจะเหลือหรอ? ถ้าสมมติเกิดเหตุขึ้น แบบนี้ประกันภัยรถยนต์จะจ่ายค่าเสียหายให้มั้ย?
กรณีรถโดนโจรกรรมต้องแบ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็น 2 กรณี
1. รถยนต์เสียหายจากการโจรกรรม
ไม่ว่ารถของคุณจะโดนทุบกระจกแตกยับเยิน หรือโดนงัดจนประตูรถพังเสียหาย หากคุณทำประกันชั้น 1 หรือประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไว้ สบายใจหายห่วง ค่าเสียหายตรงส่วนนี้ทางบริษัทประกันจ่ายให้ทั้งหมดแน่นอน
อ่านเพิ่มเติมกันเลย : ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง แนะนำโดย อีซี่
2. ทรัพย์สินภายในรถ
ไม่ว่าสิ่งที่หายไปจะเป็นโน๊ตบุ๊ค, มือถือ หรืออะไหล่พื้นฐานที่ติดมากับรถ เช่น คันเกียร์ พวงมาลัย ทางบริษัทประกันไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนนี้ เพราะถือว่าเป็นการขโมยทรัพย์สินไม่อยู่ในขอบข่ายการประกันภัยรถยนต์
สรุปง่ายๆ คือประกันจ่ายค่าเสียหายให้ แต่จ่ายเฉพาะความเสียหายที่เกิดกับตัวรถเพื่อเข้าไปก่อเหตุเท่านั้น สิ่งของต่างๆ ที่หายไปในการโจรกรรมนั้นทางประกันไม่จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
พอรู้ว่ารถโดนทุบ ควรต้องทำยังไงก่อนดี ?
1. ควักมือถือออกมาแล้วถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
2. โทรแจ้งตำรวจ
3. โทรหาบริษัทประกันภัย แต่ถ้าประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้ไม่ใช่ประกันรถชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ไม่ต้องโทรหาบริษัทประกันภัยรถยนต์ให้เสียเวลา เพราะประกันชั้นอื่นๆ ไม่คุ้มครองกรณีนี้แน่นอน
4. ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ให้ตรวจเช็คสิ่งของที่หายไปแล้วจดบันทึกไว้ให้ละเอียดที่สุดเพื่อจะได้ให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้องครบถ้วน เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ใช้ข้อมูลที่ได้ไปขยายผลสืบหาคนร้ายที่โจรกรรมรถของเรามาดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป
เพื่อป้องกันปัญหาการโดนทุบรถ แล้วโดนขโมยของ จิ๊บแนะนำว่าเวลาจอดรถไม่ควรจอดในที่เปลี่ยว หรือที่ลับตาคนจะดีที่สุด เพราะถ้าของในรถโดนขโมยขึ้นมาไม่คุ้มเลยจริงๆ