โรคขับรถแล้วง่วงถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายเอามากๆ เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า ง่วงนอนบ่อย อยากกลับบ้านไปพักผ่อนมากที่สุด หากมีอาการง่วงนอนขณะขับรถควรระวังให้ดี! เพราะอาจเป็นสาเหตุของการหลับในได้ บ่อยครั้งนักที่คนส่วนใหญ่มองข้าม และละเลยเรื่องการหลับในโดยมองว่าแค่วูบหลับในไปแค่เสี้ยววินาทีเองไม่เป็นอะไรหรอก แต่ความจริงใครจะรู้ล่ะถ้าเพื่อนๆ โชคดีตื่นตัวขึ้นมาทันก็อาจไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น หากโชคไม่เข้าข้างล่ะลองคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางครั้งการหลับในขณะขับรถอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้
การขับรถหลับในคืออะไร?
การขับรถแล้วหลับในเป็นการวูบหลับกลางอากาศในระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วินาที โดยผู้ที่ขับรถหลับในจะไม่รู้ตัวเองเลยว่าวูบหลับในไปตอนไหน ไม่รู้ว่าสิ่งรอบข้างเกิดอะไรขึ้น และไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เหมือนคนหูหนวก ตาบอดเลยแหละ การขับรถหลับในถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เพราะเพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เพื่อนๆ วูบหลับในกลางอากาศไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหลับใน
1. การอดนอน และพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุของการหลับในมากที่สุด
2. นอนหลับพักผ่อนไม่เป็นเวลา
3. การนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิทในช่วงเวลากลางคืน
4. ทานยาที่กินแล้วง่วงนอนก่อนการขับรถ เช่น ยาแก้แพ้
5. ดื่มของมึนเมา (แอลกอฮอล์)
อาการก่อนหลับใน เป็นยังไง?
เพื่อนๆ ลองสำรวจตรวจเช็คตัวเองให้ดีว่าในระหว่างขับรถเพื่อนๆ มีอาการแบบนี้หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าเพื่อนๆ มีโอกาสเกิดอาการหลับในขณะขับรถอย่างแน่นอน!
1. ขับรถออกนอกเส้นทางส่ายไปส่ายมา
2. เห็นภาพทุกอย่างรอบข้างเบลอ
3. รู้สึกง่วงนอนแบบตาจะปิด
4. ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ลืมตาค้างไว้ได้
5. หาวบ่อยตลอดเส้นทางการขับรถ
10 วิธีป้องกันการหลับในที่ใครๆ ก็ทำได้
อาการขับรถหลับในที่เกิดขึ้นใครว่าหาทางแก้ไม่ได้ล่ะ เพียงเพื่อนๆ ลองทำตามวิธีด้านล่าง รับรองเลยว่าจะไม่เกิดการหลับในขึ้นอย่างแน่นอน
1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7-9 ชั่วโมง/วัน
2. หาผลไม้รสเปรี้ยวกิน เช่น มะม่วงเปรี้ยว มะยม มะขาม จะช่วยให้ระบบประสาทตื่นตัวได้ดียิ่งขึ้น
3. ดื่มน้ำเย็น น้ำหวาน เช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าเย็น จะทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
4. จอดรถแวะงีบสัก 10-20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รับการพักผ่อน เพราะหากร่างกายได้รับการพักผ่อนบ้าง จะช่วยบรรเทาอาการหลับในให้ลดลงไปได้
5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
6. ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือของมึนเมา ก่อนการขับรถ และระหว่างการขับรถ
7. หากทานยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน ไม่ควรขับรถโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง และอาจเกิดการหลับในได้ง่ายๆ
8. ระหว่างการเดินทางควรหาเพื่อนร่วมทางไปด้วย เพราะการพูดคุยกันจะช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
9. ก่อนออกเดินทาง 2-3 วันควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เพราะสารคาเฟอีนจะทำให้นอนหลับไม่สนิท หากเกิดอาการง่วงระหว่างขับรถก็สามารถกินคาเฟอีนได้นะ แต่ต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าให้เปรียบเทียบก็กาแฟกระป๋องประมาณ 1-2 กระป๋องนั่นเอง
10. ถ้ามีเพื่อนร่วมทางแล้วเขาขับรถเป็นก็ให้สลับกันขับรถซะเลยสิ เพราะหากใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกว่าง่วงนอนจะได้นอนพักผ่อนเอาแรงได้
เห็นได้ชัดเจนว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนั้นมีความสำคัญมาก เพราะช่วยลดอาการหลับในขณะขับรถได้เป็นอย่างดี แต่ส่วนที่สำคัญกว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียง ก็คือการขับรถอย่างมีสติ และไม่ประมาทนั่นเอง ถ้าหากเพื่อนๆ ขาดความระมันระวังในส่วนนี้ก็อาจจะเป็นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ได้เช่นกัน
Pingback: 10 สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนนเกิดจากอะไรบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้ ในปี 2562
Pingback: 7 วิธี ขับรถปลอดภัย ช่วงปีใหม่ 2019 เตียมตัวบอกลาอุบัติเหตุได้อย่างแน่นอน !