เลือกโบรกเกอร์ประกันภัยอย่างไร…ให้ได้มาตรฐาน
เมื่อประกันภัยรถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน เพื่อซื้อความสบายใจและเป็นหลักประกันยามเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด จะได้ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าเพื่อซ่อมรถ (ทั้งของตัวเองและคู่กรณี)
ทำให้เมื่อถึงเวลาต้องต่อประกันภัยรถยนต์ประจำปี หลายคนจะเริ่มค้นหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองที่เหมาะสมกับรถยนต์คู่ใจ เพื่อความรวดเร็วในการหาข้อมูลเปรียบเทียบ
หลายๆ คนจึงเลือกใช้บริการการต่อประกันภัยรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์ประกันภัย เพราะสะดวก รวดเร็ว ราคาเบี้ยก็ถูก แถมยังมักมีสิทธิพิเศษอื่นๆ แถมมาอีก เช่น มีรถใช้ฟรีระหว่างซ่อมหรือผ่อน0% นาน 10เดือนโดยไม่ต้องมีบัตรเครดิต แหมมม…ดีขนาดนี้ชักเลือกไม่ถูกแล้วสิว่าจะใช้บริการเจ้าไหนดี วันนี้เราเลยมีเทคนิคดีๆ ในการเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยมาฝากกัน
1. ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ประกอบธุรกิจประกันภัยมานาน มีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถเช็ครายชื่อโบรกเกอร์ประกันภัยที่ได้รับอนุญาตประกอบการจากเว็บไซต์ของ คปภ.ได้โดยตรง
2. ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่เคยมีข่าวเสียหาย หรือหลอกลวงลูกค้า เช่น เก็บเบี้ยประกันไปแต่ไม่ทำประกันให้ลูกค้า หรือลูกค้าจ่ายเงินไปแล้วแต่พอมีปัญหาไม่สามารถเคลมได้
3. อย่าเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ราคาเบี้ยถูกมากๆ จนผิดปกติ เพราะมีแนวโน้มสูงว่าอาจเป็นการหลอกลวง ควรเช็คข้อมูลบริษัทโบรกเกอร์อย่างละเอียดก่อนตกลงซื้อประกันภัย
4. โบรกเกอร์ที่ดีควรมีตัวเลือกบริษัทประกันภัยให้คุณได้เลือกเยอะๆ เพราะนั่นแสดงถึงความมั่นคง และความน่าเชื่อถือของบริษัทโบรกเกอร์ จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายหน้าให้กับบริษัทประกันภัยหลายเจ้า
5. เลือกโบรกเกอร์ที่มีข้อเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น มีรถให้ใช้ฟรีระหว่างซ่อม ผ่อน 0% ได้ 10 เดือนโดยไม่ต้องมีบัตรเครดิต หรือบริการฉุกเฉิน 24 ชม. เป็นต้น
จากคำแนะนำที่ให้ไปคงมีคำตอบในใจสำหรับการเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยกันไปบ้างแล้ว จำไว้อย่างนึงว่า โบรกเกอร์ที่ดีไม่ใช่แค่สะดวก รวดเร็ว หรือเบี้ยถูกเท่านั้น แต่ควรเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่ช่วยให้คำแนะนำประกันภัยที่เหมาะสมกับคุณ และช่วยเหลือคุณได้ในยามที่มีปัญหาการเคลมกับบริษัทประกันด้วย
Pingback: 5 ลักษณะ โบรกเกอร์ประกันรถยนต์ ที่ดี เลือกทำประกันรถด้วย ไม่มีผิดหวังแน่นอน
Pingback: โบรกเกอร์ประกันภัยรถแบบนี้ ระวังให้ดี โบรกเกอร์ผีแน่นอน!