วิธีลดหย่อนภาษี
ถึงช่วงที่ต้องยื่นภาษีกันแล้ว หลายคนกำลังเตรียม เอกสารสำหรับลดหย่อนภาษี แต่ก็มีอีกหลายคนยังไม่ทราบว่าจะต้องลดหย่อนภาษียังไง ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และอะไรที่สามารถนำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้
เพราะใครๆก็อยากจะลดหย่อนภาษีกันทั้งนั้น เพราะการลดหย่อนภาษีทำให้เราต้องจ่ายเงินน้อยลง แต่ก็ต้องยอมรับว่าต้องเตรียมเอกสารจุกจิกบ้าง แต่รับรองว่าสิ่งที่เราจะนำมาแนะนำในวันนี้ คุ้มค่าและดีกับตัวคุณแน่นอน
ซึ่งแหล่งที่จะนำมาลดหย่อนภาษีในวันนี้ ก็มาจากค่าใช้จ่ายที่คุณจ่ายไปทุกเดือน ซึ่งบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สิ่งตัวเองจ่ายอยู่ทุกเดือนนำมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้ก็จะมานำเสนอวิธีเกี่ยวกับลดหย่อนภาษียังไงให้ได้เงินคืนเยอะ และถูกกฎหมายด้วย สนใจกันแล้วใช่ไหมคะ ไปดูกันเลยว่าเราจะลดหย่อนภาษได้จากอะไรบ้าง
1 ลดหย่อนภาษีด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด ดอกเบี้ยเงินกู้ใช้ลดหย่อนภาษีได้ และลดได้สูงสุด 100,000 บาท เช่น ดอกเบี้ย เงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย สามารถนำมาหักภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ใครมีเงินกู้ในระบบ เช็คด่วนเลยจ้า
2 ลดหย่อนภาษีด้วยประกันสังคม ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิดอีกแล้วค่ะ ประกันสังคมก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดถึง 9,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว
3 ลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันชีวิต ซึ่งสามารถนำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท สำหรับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท และประกันชีวิตบำนาญ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 200,000 บาท ใครมีประกันชีวิตเตรียมเอกสารการชำระค่าเบี้ยประกันไว้สำหรับนำไปลดหย่อนภาษีด้วยนะคะ ซึ่งหลายคนทำประกันภัย แต่ไม่รู้ว่านำมาลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ก็สามารถถามตัวแทนประกันหรือสังเกตได้จากใบเสร็จว่า สามารถลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ก็จะระบุตัวเลขในใบเสร็จนั้น
4 ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF สำหรับคนที่แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เมื่อสิ้นปี เราสามารถนำเงินมาคำนวณลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาได้ แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ต่อปี และไม่เกิน 50,000 บาท หลายคนที่ต้องการลดหย่อนภาษี หากใครที่มีรายได้เยอะจึงควรนำเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนในกองทุนรวม RMF เพราะสามารถนำเงินนั้นมาลดหย่อนภาษี แถมมีเงินฝากอีกต่างหาก
5 กองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF เป็นอีกกองทุนที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ หากเราแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาซื้อกองทุนหุ้นระยะยาวไว้ เมื่อสิ้นปี เราก็สามารถนำเงินมาคำนวณเพื่อลดหย่อนภาษี ได้ไม่เกิน 15%ต่อปี และไม่เกิน 50,000 ต่อปี และในการขายหน่วยลงทุนก็ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย ใครที่ต้องการใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีก็แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาฝากไว้ที่กองทุนหุ้นระยะยาวนะคะ
6 ลดหย่อนภาษีด้วยเงินบริจาค การบริจาคนอกจากจะเป็นการทำบุญแล้ว การบริการจากสำหรับการศึกษายังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ถึง 2 เท่า ของจำนวนเงินที่จ่าย แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่เกินร้อยละ10 ของเงินคงเหลือหลังจากหักค่าใช่จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆแล้ว ส่วนการบริจาคทั่วไป ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ไม่เกินร้อยละ 10 เช่นกัน ใครที่จิตเป็นกุศลก็อย่าลืมเก็บใบเสร็จไว้ลดหย่อนภาษีด้วยนะคะ
7 ลดหย่อนภาษีจากคู่สมรส กรณีที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ เราจะได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 30,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น จึงจะนำมาลดหย่อนภาษีได้นะคะ
8 ลดหย่อนภาษีจากการเลี้ยงดูบุตรและการศึกษาบุตร ซึ่งสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 3 คน โดยบุตรจะต้องอายุไม่เกิน 20 ปี ลดหย่อนได้ทั้งบุตรตามกฎหมายและบุตรบุญธรรม สูงสุด 45,000 บาทต่อปี
9 ลดหย่อนภาษีจากการเลี้ยงดูบิดามารดา หากเราเป็นผู้ดูแลบิดามารดาที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงบิดามารดาของคู่สมรสกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ แต่ต้องออกหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนเป็นคนเลี้ยงดูเนื่องจากว่าสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้เพียงคนเดียว
10 ลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันสุขภาพ เราสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 15,000 บาทต่อปี ซึ่งหลายคนทำประกันสุขภาพไว้ กับบริษัทประกันภัยต่างๆ เมื่อถึงสิ้นปี ก็นำมาหักลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
วิธีลดหย่อนภาษีทั้ง 10 ข้อนี้ที่นำมาแนะนำในวันนี้ ส่วนมากเป็นแหล่งที่มาจากเงินที่เราสร้างหลักประกันในอนาคตของเราเอง และเรายังนำบุคคลที่เรารักที่เราดูแลมาลดหย่อนภาษี ทำให้สามารถช่วยลดรายจ่ายด้านภาษีน้อยลง แต่สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและครอบครัวได้มากขึ้น
เรียบเรียงโดย อีซี่อินชัวร์ประกันภัยรถยนต์