จากอดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคตจะมีผู้ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น โดยดูได้จากปริมาณรถยนต์ที่ถูกผลิตและมีการซื้อขายในแต่ละปีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาด้วยก็คือจำนวนอุบัติเหตุบนถนนที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นหน่วยงานรัฐบาลและราชการเองก็มีการออกมาตรการสำหรับลดอุบัติเหตุเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความรุนแรงของกฎหมายมากขึ้น เช่น บทลงโทษที่เกิดจากการเมาแล้วขับ หรือการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด กล้องตรวจจับความเร็วเพื่อบันทึกภาพสำหรับผู้ที่ขับขี่รถด้วยความเร็วเกินกว่ากำหนด ซึ่งในส่วนใบขับขี่ก็ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน
ผู้ขับขี่ที่มีความประสงค์จะใช้รถยนต์บนท้องถนนจะต้องได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะต้องผ่านการสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในสมัยก่อนจะมีการสอบใบอนุญาตขับขี่เพียงครั้งเดียวและผู้ที่สอบผ่านจะได้รับใบขับขี่ชนิดตลอดชีพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกรมการขนส่งทางบกได้เปลี่ยนแปลงให้ใบขับขี่มีวันหมดอายุเพื่อให้เกิดกระบวนการต่ออายุใบขับขี่ซึ่งจะมีทั้งการทดสอบร่างกายและการอบรมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายจราจรทุกครั้ง อีกหนึ่งสิ่งที่กรมการขนส่งได้มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งถือว่าเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีมากคือการเพิ่มเวลาและกระบวนการสอบใบขับขี่ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และมีการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประสงค์จะสอบใบอนุญาตขับขี่ โดยในปี 2562 ผู้ที่ต้องการสอบใบขับขี่ที่ไม่ใช่แบบต่ออายุใบขับขี่สามารถจองคิวผ่านช่องทางออนไลน์ในเวปไซต์ได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ระบบจะแสดงข้อมูลการจองคิว หลังจากกรอกข้อมูลส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว
- เมื่อถึงวันที่กำหนดควรเข้ามาก่อนเวลาสักเล็กน้อย (ก่อน 8.00 น.) เพื่อทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายก่อนเข้าอบรม มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์และต้องสมัครจองคิวใหม่
- จองได้ล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างมาก 7 วัน ถ้ามีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงวัน เวลา และสถานที่อบรมต้องแจ้งแก้ไขก่อนถึงเวลาเป็นอย่างน้อย 2 วัน
- หลังจากผ่านการสอบแล้ว 2 วันจึงจะได้ครอบครองใบขับขี่
สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่แล้วควรทราบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุใบอนุญาตดังนี้
- ต้องนำใบขับขี่เดิม หรือถ้าหายต้องแจ้งความและนำใบแจ้งความมาด้วย
- บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา
- มีการสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นสี ทดสอบสายตาทางลึก ทางกว้าง ปฏิกิริยาเท้า
- อบรมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- ชำระค่าธรรมเนียม ถ่ายรูปและรับใบขับขี่
- กรณีใบขับขี่ขาดการต่ออายุนานเกิน 1 จะเพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน และขาดเกิน 3 ปีจะต้องสอบข้อเขียน สอบขับรถ และนำใบรับรองแพทย์มายื่นร่วมด้วย
ถึงแม้การสอบใบอนุญาตขับขี่และการต่ออายุจะสร้างความยุ่งยากและเสียเวลาในการทำนานขึ้น แต่ทั้งหมดล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้สอบและผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ เพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งสิ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : สอบใบขับขี่ปี 2560 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เค้าสอบกันอย่างไรรู้หรือยัง
เรียบเรียงโดย Easyinsure
ขอบคุณรูปภาพ https://sites.google.com/site/cardrivingthai/08