ในปัจจุบันกล้องติดรถยนต์ได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญกับผู้ขับขี่ยานพาหนะมากยิ่งขึ้น ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เราสามารถแบ่งวิธีการใช้งานของกล้องติดรถยนต์ได้ 2 แบบ คือ ใช้สำหรับดูภาพในจุดที่ผู้ขับขี่มองไม่เห็น และสำหรับบันทึกภาพ ซึ่งวิธีการใช้งานทั้ง 2 รูปแบบจะทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยในขณะขับขี่ อีกทั้งยังใช้เป็นหลักฐานประกอบกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ต่อไปนี้เป็นเทคนิคและเกร็ดเล็กน้อยในการใช้งานกล้องติดรถยนต์
6 เคล็ดลับการใช้กล้องติดรถยนต์
- กรณีที่ต้องใช้ภาพแค่อย่างเดียว ควรปิดเสียง เพราะกล้องรถยนต์จะบันทึกได้ทั้งภาพและเสียงภายในรถยนต์ด้วย ดังนั้นถ้าต้องใช้เพียงแค่ภาพอย่างเดียว ก่อนจะส่งหลักฐานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานฝ่ายประกันควรปิดเสียงจากกล้องก่อนทุกครั้ง
- ควรตั้งโหมดบันทึกภาพตลอดเวลา เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์การเกิดอุบัติเหตุได้ล่วงหน้าทุกครั้ง
- เมมโมรี่การ์ดที่ใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับเก็บภาพที่บันทึกจากกล้องติดรถยนต์ควรเสียบไว้อยู่กับกล้องตลอดเวลา และจะดียิ่งขึ้นถ้ามีเมมโมรี่การ์ดอย่างน้อย 2 ชิ้น เผื่อกรณีนำเมมโมรี่การ์ดออกไปใช้ก็นำการ์ดสำรองมาเสียบไว้กับตัวกล้องที่ติดรถยนต์แทน
- ควรติดกล้องสำหรับบันทึกภาพด้านหลังรถเข้าไปด้วย นอกจากจะช่วยเก็บภาพแล้วยังทำให้ผู้ขับสามารถขับถอยหลังเข้าจอดหรือกลับรถในที่แคบๆ ได้อย่างสะดวกด้วย โดยกล้องถอยหลังจะมีทั้งแบบที่เป็นแค่กล้องมอง และที่สามารถบันทึกภาพร่วมด้วยได้
- โดยปกติแล้วกล้องติดรถยนต์จะใช้แหล่งไฟจากช่องเสียบที่จุดบุหรี่ ในกรณีที่จอดรถผู้ขับขี่สามารถดึงปลั๊กออกจากช่องเสียบที่จุดบุหรี่ได้ เพื่อป้องกันไฟกระชากตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ซึ่งจะส่งผลให้กล้องเกิดความเสียหายได้
- การตั้งโหมดบันทึกภาพแบบบันทึกซ้ำไว้เสมอ ปกติกล้องจะทำการบันทึกภาพในลักษณะวนเป็นวงกลมเมื่อบันทึกจนเต็มความจุของเมมโมรี่การ์ดแล้ว จะบันทึกซ้อนจากช่วงต้นเป็นวงวนไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่ว่าจะติดตั้งที่ร้านประดับยนต์หรือนำมาติดตั้งเองก็ควรตรวจสอบดูให้แน่ใจเสียก่อนจะใช้งานจริง
ข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางในการใช้กล้องติดรถยนต์คร่าวๆ แต่ยังมีข้อแนะนำอื่นๆ เพิ่มเติมอีกได้แก่ การเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ เนื่องจากในปัจจุบันมีให้กล้องให้เลือกซื้อหลายแบบหลายยี่ห้อ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับคุณภาพการใช้งาน กล้องที่มีราคาสูงก็จะมีการเก็บภาพด้วยรายละเอียดที่สูงขึ้นเห็นภาพที่บันทึกได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรทดสอบคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อด้วยการนำไปบันทึกภาพในที่มีแสงน้อย (จำลองสถานการณ์ว่าบันทึกภาพตอนขับรถเวลากลางคืน) ว่าสามารถเห็นสิ่งที่บันทึกชัดเจนหรือไม่ เพราะเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุจริงๆ กล้องสามารถบันทึกภาพรถคู่กรณีได้แต่ไม่สามารถอ่านตัวเลขบนป้ายทะเบียนรถได้ ก็จะกลายเป็นว่าข้อมูลที่ได้มาไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดีหรือการตัดสินถูกผิด
ขอบคุณรูปภาพจาก youtube
Pingback: พนักงานนำรถยนต์บริษัทไปใช้ในวันหยุด และเกิดอุบัติเหตุประกันคุ้มครองไหม