เมื่อก่อนรถบิ๊กไบค์เป็นอะไรที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม ด้วยราคาที่แพงแสนแพงและแหล่งซื้อขายที่ค่อนข้างแคบและยากลำบาก ต่อมาไม่นานเราก็เริ่มเห็นบิ๊กไบค์ตามท้องถนนมากขึ้นเป็นเท่าตัว นั่นก็เพราะว่าบิ๊กไบค์เริ่มทำการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้นนั่นเอง และที่เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าราคาค่างวดของรถบิ๊กไบค์นั้นไม่ถูก ต่อให้เป็นรุ่นล่างสุดก็เถอะก็ยังค่อนข้างสูงอยู่ดี มันจึงโยงมาถึงเรื่องการทำประกัน ต้องทำประกันแบบไหนมันถึงจะคุ้มค่าและเหมาะกับรถบิ๊กไบค์ของเรา
นักซิ่งบิ๊กไบค์ควรเลือกประกันแบบไหนถึงจะคุ้มที่สุด
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจรถของเราเสียก่อน อย่างแรกคือการซื้อสดกับการซื้อผ่อนมีผลต่อประกันแน่นอน ถ้าซื้อสดเรามีสิทธิเลือกประกันได้เต็มที่ แต่หากซื้อผ่อนส่วนมากจะมีบังคับไว้แล้วว่าต้องทำ ประกันบิ๊กไบค์ ชั้นไหน อย่างไร ดังนั้นถ้าซื้อผ่อนก็ตัดไปก่อน มาดูซื้อสดกันดีกว่า เอาหล่ะ ในเมื่อเราต้องเลือกซื้อประกันเพื่อมาดูแลรถของเราเอง เราก็ต้องรู้ก่อนว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับบิ๊กไบค์นั้นมีอะไรบ้าง หลักๆ ก็จะไล่ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ ไฟไหม้ และแน่นอน สูญหาย เพราะรถบิ๊กไบค์นั้นถูกโจรกรมได้ง่ายกว่ารถยนต์ที่คันใหญ่แถมยังได้ราคาดี
ประกันที่เราเลือกจึงควรครอบคลุมประเด็นเหล่านี้เป็นอย่างต่ำนอกจากนี้ก็ต้องดูเรื่องการคุ้มครองชีวิต ทั้งตัวเราและบุคคลภายนอก รถบิ๊กไบค์แม้ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซด์ แต่ก็เป็นมอเตอร์ไซด์ที่เครื่องแรง เน้นความเร็ว การเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งมันจึงมีความรุนแรงมากกว่า โดยปกตถ้ามอเตอร์ไซด์ทั่วไปชนคนเข้า อย่างมากก็บาดเจ็บสาหัส แต่สำหรับบิ๊กไบค์นั้น ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย จึงต้องใช้ประกันที่ดูแลในส่วนนี้ด้วย ทั้งค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ทั้งหมดนี้เจ้าของรถต้องตรวจดูรายละเอียดกับบริษัทประกันในแต่ละที่โดยละเอียด เพื่อเลือกแบบที่เหมาะสมที่สุด
คนขับบิ๊กไบค์ที่ดีนั้น ไม่ใช่เพียงแค่มีทุนทรัพย์เพียงพอให้ซื้อรถและซื้อประกันได้ แต่จะต้องมีความรับผิดชอบและคิดถึงส่วนรวมให้มากขึ้นเทียบเท่าความแรงของรถที่ใช้ ต่อให้รถจะเสียหายเท่าไรก็คงเทียบไม่ได้หากต้องสูญเสียชีวิตใครไปสักคนหนึ่ง นอกจากสภาพรถที่ดีและประกันที่คุ้มค้าแล้ว สติยังเป็นด่านแรกที่จะคุ้มครองทั้งตัวคุณ รถของคุณ และคนอื่นๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อความเร็วมากขึ้น สติต้องมากขึ้นตามไป เพราะความเร็วจะทำให้ทัศนวิสัยลดประสิทธิภาพลง สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นการเลือกใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับท้องถนน ที่ไหนที่เป็นแหล่งชุมชน ที่ไหนที่ต้องลดความเร็ว ก็ต้องลด ที่ไหนที่พอเร่งได้ก็จัดได้เต็มที่ แบบนี้ถึงจะเป็นคนขับบิ๊กไบค์ที่ดูดีทั้งกายและใจ