กรณีไหนบ้าง ที่ประกันไม่รับผิดชอบ
วันหนึ่งหากเหตุร้ายแย่ๆกับรถของคุณแน่นอนว่าอาการแรกที่ทุกคนจะต้องเจอคือต้องหัวร้อน โกรธ และหงุดหงิดกับเรื่องแย่ ๆ แบบนี้แน่นอน แน่นอนว่าหากรถของคุณทำ ประกันภัยรถยนต์ ไว้แบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะ ประกันชั้น 1 ชั้น 2 หรือชั้นไหนๆตาม สิ่งที่ทุกคนมักจะสงสัยหลายครั้งหลายครานั้นคือ “ประกันที่ฉันทำไว้นี้มันคุ้มครอง รับผิดชอบ และจัดการให้ฉันได้หรือไม่” นั้นสินะเมื่อลองคิดดูแล้วต้องเป็นเหตุแบบไหนประกันจึงจะไม่รับผิดชอบ ไม่ยุ่ง และไม่ช่วยเหลือใดๆเลย วันนี้เราจะมาบอกเป็นกรณี ๆ กันไปเลยว่ากรณีไหนบ้างที่ประกันไม่รับผิดชอบ
- เกิดความเสียหายระหว่างการขนย้าย ไม่ว่าจะใช้รถลาก รถยก หรือรถขนรถอีกที คุณจะต้องจัดการดูแลความปลอดภัยด้วยตนเอง เพราะหากเกิดเหตุในช่วงนี้จนถึงช่วงซ่อมเสร็จบริษัทประกันภัยจะสามารถรับผิดชอบได้เพียง 20% เท่านั้น
- รถยนต์ที่ติดระบบก๊าซ NGV หรือ LPG โดยไม่แจ้งให้ทางประกันทราบเรื่อง เมื่อเกิดเหตุขึ้นรถของคุณจะกลายเป็นฝ่ายผิดโดยทันที ความคุ้มครองที่จะได้รับจากการประกันอาจไม่
- หากรถเกิดพังและไม่สามารถซ่อมได้เลย ทางประกันจะแก้ไขโดยการจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันเต็มจำนวนทุนประกัน ซึ่งรถคันดั่งกล่าวจะกลายเป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันภัยนั้น ๆ ทันที
- ไม่ชำระค่าเบี้ยประกันอย่างครบถ้วน แน่นอนว่ากรณีนี้คุณจะต้องเดือดร้อนและออกเงินส่วนต่างด้วยตนเองอย่างแน่นอน ฉะนั้นอย่ามัวนิ่งนอนใจหากรถยนต์ที่คุณขับนั้นไม่มีประกันภัยใดๆรีบต่อให้เรียบร้อย
- เมาแล้วขับ อย่าเมาเหล้าหรือเบียร์ก่อนขับรถเด็ดขาด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าในกรณีใดๆทางประกันสามารถปฎิเสธการจ่ายค่าชดเชยต่างๆให้แก่คุณได้
- นำรถไปใช้แบบผิดวิธี เช่น บรรทุกผู้นักเกินกว่าที่กำหนด เป็นต้น หรือนำไปใช้ผิดข้อกำหนด เช่น นำรถยนตส่วนบุคคลเพื่อทำการขนของต่างๆจนเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
- ใช้เพื่อการก่อการร้ายหรืออยู่ในพื้นที่ประกาศ พรก ฉุกเฉิน ซึ่งคุณอาจจะนึกภาพไม่ออกหากคุณนำรถที่ใช้ไปใช้เพื่อทำการประท้วง สร้างม๊อบ หรือสร้างความรุนแรงต่างๆ เมื่อประกันพบเจอว่าเกิดความเสียหายจะไม่รับผิดชอบใดๆทันที
- ชนแล้วหนี นอกจากทางประกันจะไม่ผิดชอบแล้วสำหรับกรณีนี้ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องศาลเลยทีเดียว
โดยปกติแล้วประกันจะมีขอบเขตของความคุ้มครองที่จำกัดอยู่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ประเภทไหนก็ตาม เบื้องต้นจะดูแลและชดเชยให้เพียงแค่ร่างกายและตัวทรัพย์สินของผู้เอาประกันไว้ก่อนเท่านั้นแล้วแต่กรณีไป
ไม่ได้ชดเชยเกี่ยวค่าเสียหายอื่น ๆ มากเท่าไรนักหรือแม้แต่การซ่อมแซมรถยนต์ของบางกรมธรรม์เองก็ยังไม่สามารถกำหนดเวลาแน่นอนในการซ่อมแซมได้แน่นอน ยิ่งหากคุณตกเป็นฝ่ายผิดด้วยแล้วเรื่องทุกอย่างมันคงจะดูวุ่นวายน่าดู ฉะนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณีควรให้ประกันเป็นฝ่ายเจรจาให้เหมาะสมและถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้