กลับมาพบกันอีกแล้วกับสาระความรู้เรื่องรถยนต์ วันนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆรู้เท่าทันอู่รถยนต์ หลาย ๆ คนไม่มีอู่ประจำ หรือช่างที่สนิทและไว้วางใจได้ หลายๆคนไม่มีความรู้แม้แต่เรื่องของการเปลี่ยนถ่าย “ น้ำมันเบรก ” เมื่อถึงเวลาก็เข้าอู่ เข้าศูนย์ช่างว่าอย่างไรก็ตามนั้น ไม่เคยตรวจเช็ค วันนี้เราจึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆรู้เท่าทันอู่ซ่อมรถหากเราต้องไป เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” เราควรตรวจสอบอะไรบ้าง ว่าแล้วก็มาดูกันเลย
ก่อนอื่นหากเป็นไปได้เราก็ควรอยู่ดูว่าช่างเลือกน้ำมันเบรกแบบไหนให้เรา หรือ เราสามารถซื้อไปเองได้ โดยดูจากคู่มือว่าใช้เบอร์ไหน ทีนี้การเปลี่ยนน้ำมันเบรกนั้นค่อนช้างจะยุ่งยากหลายขั้นตอนหากเราสามารถนั่งเฝ้าได้เราก็จะเห็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มดูดน้ำมันเก่าออกจากกระปุกเติม และจะมีการเติมน้ำมันเบรกใหม่เข้าไปแล้วดูดออกเพื่อเอาสิ่งตกค้างออกมาให้หมด หลังจากนั้นช่างจะไล่ลมเบรกพร้อมๆกับเติมน้ำมันเบรกเข้าไป จุดนี้เองที่หลายๆคนสงสัยทำไมช่างใช้น้ำมันเบรกเปลืองคือมันต้องไล่ลมและน้ำมันต้องไม่ขาดไม่งั้นหากลมเข้าก็ทำกันอีกนานและเปลืองหนักกว่าเดิม
ต่อมากก็จะมาจัดการที่ล้อ เพราะที่ล้อก็จะมีชุดเบรกอยู่การเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งระบบช่างจะมาไล่น้ำมันเบรกที่ล้อออกทีละล้อโดนจะขันสกรูไล่ลมไล่น้ำมันเบรกออกทีละล้อจนครบ แล้วก็จะเติมน้ำมันเบรกใหม่ไล่ลมตั้งเบรกให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานก็เป็นอันจบ ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่บางคนไม่ได้นั่งเฝ้าก็จะไม่เห็นขั้นตอนต่างๆเหล่านี้ว่าทำครบไหม จุดที่จะสังเกตได้คือ การเหยียบเบรกนั้นดีขึ้นกว่าเดิมไหมรู้สึกติดๆขัดเวลาเบรกไหม แต่บางครั้งมันก็ยากที่จะเช็คแต่หากสังเกตจากสีน้ำมันเบรกก็พอจะบอกเราได้เช่นกันดังนั้น ก่อนการไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกสังเกตสีน้ำมันเบรกในกระปุกของเราสักนิดว่ามีลักษณะแบบไหน หลังเปลี่ยนแล้วเป็นแบบไหน น้ำมันควรจะใสกว่าเดิม
นอกจากนี้คือระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายควรจะมีระยะเวลาพอสมควรไม่ใช่แค่ 20 นาทีเสร็จอันนั้นมันก็เร็วเกินไปเพราะจะต้องไล่น้ำมันทั้งจากกระปุก และที่ล้อ อย่างน้อยๆก็ร่วมๆ 1 ชั่วโมงเพราะกว่าจะไล่ลมเสร็จ แล้วมาถึงล้อทั้งสี่ล้อ พร้อมตรวจเช็คอย่างน้อยๆก็หนึ่งชั่วโมง นอกจากนี้น้ำมันเบรกหากเราซื้อไปเองก็ควรซื้อไปเผื่อสำหรับการไล่ลมด้วยไม่ใช่ซื้อแค่พอดีเติมเพราะในการไล่ลมนั้นจะใช้น้ำมันใหม่เติมเข้าไปด้วยเพื่อไล่ของเก่าออก แต่หากไม่ได้เตรียมไปก็ต้องดูว่าช่างคิดราคาน้ำมันเบรกเท่าไหร่ ใช้หมดไหมส่วนที่เหลือเราได้คืนหรือเปล่า แต่หากเป็นไปได้หากเราไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย แนะนำให้หาอู่หรือศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและไว้ใจได้จะดีกว่า เสียเงินมากหน่อยแต่ได้ความชัวร์ดีกว่ามาเสียเงินน้อย ๆ แต่ได้ความมักง่ายหลอกกินเงินจากช่างที่เห็นลูกค้าไม่รู้เรื่องก็ฟันหัวแบะอย่างเดียว
อ่านบทความเพิ่มเติม
รถมือหนึ่ง vs รถมือสอง การดูแลต่างกันหรือไม่