หลากหลายคำถามเกี่ยวกับเรื่องของการ ประกันภัยรถยนต์ ที่ผู้ทำประกันภัยอยากรู้นั้นมักจะมีคำถามที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงเรื่องราวกระแสสังคมอย่างเช่น การก่อการร้าย หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม ซึ่งเคยเป็นปัญหาใหญ่ของคนทำประกันและบริษัทประกันเมื่อสัก 2-3 ปีที่ผ่านมารวมถึงในตอนนี้ด้วย และตอนนี้เรื่องน้ำท่วมก็ยังคาใจใครหลาย ๆ คนกันอยู่ วันนี้เรามาหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
Q : น้ำท่วม ประกัน รับผิดชอบไหม
A : บริษัทประกันรับผิดชอบหากเกิดอุทกภัยซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย
Q : ประกันชั้นไหนบ้างที่รับผิดชอบเรื่องน้ำท่วม
A : ประกันชั้น 1 รับผิดชอบให้ทั้งหมดส่วนประกันชั้นอื่นนั้นไม่มีรับผิดชอบในส่วนนี้
Q : ผู้เอาประกันจะเคลมกรณีน้ำท่วมได้อย่างไร
A : หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถยนต์ที่เราทำประกันชั้น 1 ไว้ ขั้นตอนแรกคือ
1.ถ่ายรูปรถคันที่น้ำท่วมไว้ในขณะที่น้ำยังท่วมรถอยู่
2.โทรติดต่อกับตัวแทนที่เราติดต่อซื้อประกัน หรือ โทรติดต่อพนักงานของบริษัทที่เราถือกรรมธรรม์ไว้ เพื่อสอบถามรายละเอียดในการเคลมเพิ่มเติม และเตรียมเรื่องเอกสารต่างๆ เพื่อดำเนินการหลังน้ำลด
3.ถ่ายรูปรถคันที่น้ำท่วมหลังน้ำรถทั้งสภาพภายนอก และ ภายใน
4.แจ้งบริษัทประกันอีกครั้งหลังน้ำลดเพื่อติดต่อดำเนินการเช็คสภาพความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับรถ
Q : ในกรณีน้ำท่วมบริษัท ประกันภัยรถยนต์ จ่ายให้อย่างไร
A : การจ่ายชดเชยค่าสินไหมในกรณีน้ำท่วมนั้นจะแบ่งเป็นสองแบบคือ
1.จ่ายชดเชยกรณีสูญเสียโดยสิ้นเชิง คือ การที่รถอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้อีกหรือเสียหายมากกว่า 70% โดยทางประกันจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนั้นมาประเมินสภาพความเสียหายทั้งหมด
หากตีราคาออกมาแล้วไม่คุ้มหรือมีราคาค่าซ่อมประมาณ 70% ของราคารถทางประกันจะจ่ายเงินประกันความเสียหายให้เต็มจำนวนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งลักษณะการท่วม ,พื้นที่ที่รถโดนน้ำท่วมว่าท่วมหนักจริงไหม , สภาพความเสียหายต่างๆเช่นห้องเครื่อง , ภายในห้องโดยสาร ดังนั้นหากเกิดกรณีนี้ควรถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานด้วยทั้งตอนท่วมและตอนน้ำลด ซึ่งการพิจารณาคร่าวๆว่าหากรถของเราโดนน้ำท่วมแล้วจะเข้าข่ายนี้หรือไม่คือ น้ำท่วมรถจนมิดทั้งคัน , น้ำท่วมเกินครึ่งหนึ่งของคอลโซลหน้ารถ (ประมาณท่วมเลยฝากระโปรงรถจนถึงครึ่งหนึ่งของกระจกหน้ารถ )
2. จ่ายชดเชยกรณีเสียหายบางส่วน แม้ว่าผู้เอาประกันจะแจ้งว่าน้ำท่วมรถต้องเคลมทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงจะต้องตรวจสอบอย่างที่กล่าวในข้อ 1 ซึ่งหากทางเจ้าหน้าที่มาประเมินสภาพของรถยนต์แล้วพบว่าสามารถซ่อมแซมได้ ก็จะชดเชยให้ในส่วนของค่าซ่อมแซมที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการซ่อมแซมเครื่องยนต์ , การซ่อมระบบต่างๆ ,การซ่อมห้องโดยสาร และ การทำความสะอาด ซึ่งเราสามารถเคลมได้ตามความเป็นจริง
ทีนี้คงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมเกี่ยวกับการเคลมประกันหากเกิดอุทกภัยหรือน้ำท่วมรถของเรา แต่ทั้งหมดนั้นต้องมีความชัดเจนในความเสียหายด้วย และที่สำคัญจ่ายให้เฉพาะรถยนต์ที่ทำประกันชั้น 1 เท่านั้น หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยอยากจะสอบถามเพิ่มเติมติดต่อได้ที่นี่ easyinsure.co.th ผู้นำด้าน ประกันออนไลน์
Pingback: ภัยธรรมชาติ แบบไหนบ้างที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองและไม่คุ้มครอง