วันนี้มีเรื่องราวดีๆของคนรักรถมาฝากอีกแล้ว และเป็นประจำที่เรามักจะได้รับคำแนะนำการขับรถในฤดูกาลต่างๆซึ่งหลายคนก็ทำตาม หลายคนก็ปล่อยผ่านเพราะคิดว่าดูแลรถอยู่ทุกวันและมันมากพอแล้วจึงไม่จำเป็นต้องดูและเป็นพิเศษ หรือ ต้องระมัดระวังการขับขี่เพิ่มเติมแต่อย่างไร ซึ่งเราบอกเลยว่าคุณประมาทและมั่นใจในสภาพรถยนต์มากเกินไป ซึ่งเคล็ดลับการดูแลและเตรียมรถสำหรับหน้าฝนหรือการขับลุยน้ำลุยฝนนั้นมีอะไรบ้างเรามาดูกัน ขับรถหน้าฝนต้องเตรียมตัวอย่างไร?
1.อุปกรณ์ปัดน้ำฝน สิ่งที่หลายคนมองข้ามเพราะในบ้านเราปีๆหนึ่งจะใช้งานกันเต็มที่ก็สักสองสามเดือนแถมไม่ได้ใช้ทุกวัน ดังนั้นหลายคนจึงปล่อยผ่านไม่มีการเช็คยางก้านปัดน้ำฝนหรือตรวจสอบว่าก้านปัด ปุ่มกด และน้ำในกระปุก รวมถึงท่อน้ำที่ฉีดมายังหน้ากระจก ยังดีอยู่หรือไม่มีอะไรเสียหายหรือเปล่า บางคนรู้ตัวอีกทีคือกดปุ่มใช้งานแล้วก้านปัดน้ำฝนนิ่งสนิทไปแล้ว ดังนั้นควรตรวจสอบอย่างน้อยก็สองสามเดือนครั้งและต้องระวังเรื่องของยางก้านปัดน้ำฝนเสื่อสภาพด้วย และควรเช็คระดับน้ำในกระปุกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย
2. ระบบเบรกไม่ว่าฤดูไหนๆเบรกคือหัวใจของการขับรถในเรื่องความปลอดภัยดังนั้นการตรวจสภาพเบรกเช่น เช็คน้ำมันเบรก จานเบรก ผ้าเบรก สายเบรก หม้อลมเบรก ควรทำอย่างน้อยเดือนละครั้งหากใช้รถเป็นประจำแต่หากนานๆใช้ทีก็สักสามเดือนครั้งและควรเตรียมพร้อมก่อนเข้าหน้าฝนด้วย โดยเฉพาะน้ำมันเบรกควรเช็คทุกอาทิตย์ และที่สำคัญคือต้องรู้จักสังเกตและจับความรู้สึกทุกครั้งที่เหยียบเบรกว่าระยะการเบรกยังเท่าเดิมไหม การกดน้ำหนักเท้าต้องออกแรงเยอะกว่าเดิมหรือเปล่า หากผิดสังเกตหรือเบรกแล้วมีเสียงผิดปรกติ ควรนำรถแสนรักของคุณไปเช็คระบบเบรกโดยด่วนก่อนที่จะเบรกแตกทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
3.สภาพยาง ในหน้าฝนถนนจะลื่นกว่าปรกติ ดังนั้นดอกยางมีความสำคัญมากซึ่งวิธีง่ายๆสำหรับการตรวจดอกยางเบื้องต้นคือใช้ก้านไม้ขีดวัดที่ร่องของดอกยางหากส่วนที่เป็นสีแดงที่ปลายก้านโผล่พ้นดอกยางได้นั่นคือดอกยางสึกแล้วควรเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
นอกจากนี้การขับขี่รถยนต์ในขณะฝนตกหรือหลังฝนตกในช่วงที่ถนนยังแฉะๆ หรือมีน้ำขังควรลดความเร็วด้วยเพราะหากสภาพรถคุณไม่ดีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปรกติ และที่สำคัญระมัดระวังการขับเหยียบน้ำแล้วสาดใส่คนข้างทางด้วยซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นกันบ่อย ๆ
ไอ้ประเภทขับเร็วๆแล้วน้ำกระเซ็นใส่คนข้างทาง ซึ่งเป็นมารยาทที่ไม่ดีควรนึกถึงใจเขาใจเราด้วย และที่สำคัญอีกประการคือควบคุมความเร็วของรถไม่ขับเร็วเกินไปเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและควรใจเย็นกันสักนิดเพราะสมัยนี้มีแต่คนขับรถด้วยความรีบและใจร้อนทำให้เกิดเหตุบนท้องถนนบ่อยๆมากๆดังนั้นควรมีสติก่อนสตาร์ทเพื่อความปลอดภัยของคุณและเพื่อนร่วมทาง ช้าสักนิดเพื่อชีวิตจะได้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
แหล่งที่มา https://www.easyinsure.co.th/