เมื่อเจ้าของรถอย่างเราต้องซื้อประกัน แต่ๆๆๆ…ว่าไม่มีเงินก้อน แบบนี้จะต้องทำอย่างไรดี เราเองก็เป็นเหมือนกับคุณนั้นแหละค่ะ คือ เงินเดือนก็น้อย เก็บแล้วแต่ก็ยังไม่พอที่จะนำมาจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงอยู่แล้ว ปวดหัวใช่ไหมละเราก็เป็น แต่เคยได้ยินเพื่อนที่มีรถเหมือนกันบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ประกันภัยรถยนต์ ก็สามารผ่อนได้ เรานึกขึ้นได้..เลยจัดการหาข้อมูลเลยค่ะ ไม่ไหวแล้วไม่งั้นประกันรถหมดเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมาต้องจ่ายเยอะแน่ๆคงรับไม่ไหว เราก็หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและโลกออนไลน์เนียแหละ
ซึ่งก็มีข้อมูลให้ดูเยอะเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะหาข้อมูลได้ง่ายขนาดนี้ ว๊าว.แบบนี้ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นก้อนอีกแล้ว ซึ่งเราเองก็บอกเลยว่าเราก็ซื้อแบบผ่อนจ่ายเนียแหละเลยอยากจะมาบอกเล่าในเรื่องของขั้นตอนการผ่อนประกันรถยนต์ เผื่อมีใครสนใจและจะนำไปใช้ประโยชน์ โดยขั้นตอนการผ่อนชำระ สามารถทำได้ด้วยวิธีไม่ยาก คือ ให้ทำการกรอกแบบฟอร์มผ่อนชำระเบี้ยประกัน เตรียมในเรื่องของสำเนาบัตรเครดิต (หน้า-หลัง) พร้อมกับให้เซ็นรับรองสำเนา และเตรียมสำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา จากนั้นก็ทำการติดต่อโบกเกอร์บริษัทที่เราต้องการซื้อ ซึ่งการ ผ่อนประกันภัยรถยนต์ จะแบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
โดยการเงื่อนไขการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต คือ ชื่อของผู้เอาประกันภัยต้องตรงกับชื่อในบัตรเครดิต จำนวนงวดผ่อนจ่ายกับที่ธนาคารอนุมัติจะต้องสัมพันธ์กับบริษัทประกันภัยที่เราเลือก เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ขั้นต่ำ 3,000 บาท ต่อรายการ ซึ่งเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่เราทำการผ่อนชำระ เป็นค่าเบี้ยประกันภัยราคาปกติหารด้วยจำนวนงวดที่เราจะต้องจ่าย
จำนวนเงินขั้นต่ำที่จะต้องจ่าย คือ 500 บาทขึ้นไป ต่อ เดือน
ซึ่งในปัจจุบันสามารถผ่อนจ่ายให้เลือกมี บริษัทประกันภัย ให้เลือกกว่า 30 บริษัท แต่อย่างไรก็ดีทั้งนี้เราต้องดูก่อนว่าบริษัทที่เราซื้อนั้นมีประกันที่เราอยากจะได้หรือไม่ ในส่วนของหลักเกณฑ์ในการผ่อนค่าประกันรถยนต์ เป็นเงินสด ที่ไม่ใช้บัตรเครดิต ก็คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีที่แตกต่างกันก็คือ อย่างเช่นในกรณีที่ลูกค้าเซ็นสัญญาและชำระเงินงวดแรกภายในช่วงวันที่ 1-10 ของเดือน จากนั้นก็ให้ทำการชำระงวดที่ 2 ในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป ส่วนลูกค้าที่เซ็นสัญญาและชำระเงินงวดแรกภายในช่วงระยะเวลาของวันที่ 11-31 ของเดือน ให้ชำระงวดที่ 2 ในวันที่ 1 ของเดือนของเดือนถัดไป เช่นกัน แต่อย่างไรก็ดีแต่ละบริษัทอาจจะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้เราเองก็ควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจให้ดีก่อน เนื่องจากแต่ละบริษัทนั้นมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
แนะนำโดย easyinsure.co.th