## 🧾 ผู้เอาประกันภัยคือใคร? ทำไมต้องระบุไว้ในกรมธรรม์ ⁉️
ในการทำประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น **ประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันทรัพย์สิน** 🏥🚗🏠 เรามักจะเห็นคำว่า “ผู้เอาประกันภัย” ปรากฏอยู่ในหน้ากรมธรรม์อยู่เสมอ หลายคนอาจสงสัยว่า… ใครคือผู้เอาประกันภัย? ทำไมถึงต้องระบุให้ชัดเจน? และเขามีหน้าที่หรือสิทธิ์อะไรบ้าง?
วันนี้ EasyInsure จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจแบบง่ายๆ กันครับ 😊
### 👤 ผู้เอาประกันภัย คือใคร?
**ผู้เอาประกันภัย (Insured)** หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า **ผู้ถือกรมธรรม์ (Policy Holder)** คือบุคคลที่ทำสัญญาประกันกับบริษัทประกันภัย ✍️ โดยมีหน้าที่หลัก ๆ ดังนี้:
* เปิดเผยข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงภัย 📄
* ชำระเบี้ยประกันภัยตรงเวลา 💸
* เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เอาประกันไว้ สามารถ **เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน** ได้ตามจริง
📌 *ผู้เอาประกันภัยอาจไม่ใช่ผู้รับผลประโยชน์ก็ได้ เช่น พ่อทำประกันให้ลูก แต่ผู้รับผลประโยชน์คือแม่ เป็นต้น*
### ⭐ ทำไมต้องมี “ผู้เอาประกันภัย” ระบุไว้ในกรมธรรม์?
การระบุชื่อผู้เอาประกันภัยมีความสำคัญมาก เพราะ…
✅ เป็นการกำหนดตัวผู้มีสิทธิในความคุ้มครอง
✅ เป็นผู้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหม
✅ เป็นผู้มีสิทธิในการ “ยกเลิก” หรือ “โอนประโยชน์” ของกรมธรรม์
✅ ใช้ยืนยันในการแจ้งเคลมเมื่อเกิดเหตุ
✅ ช่วยให้บริษัทประกันสามารถพิจารณาความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ
### 🛡️ หน้าที่ของผู้เอาประกันภัย มีอะไรบ้าง?
🔍 เปิดเผยความจริง – ต้องให้ข้อมูลครบถ้วนและไม่บิดเบือน
💵 ชำระเบี้ยประกันภัย – ตรงเวลาเพื่อไม่ให้กรมธรรม์ขาดความคุ้มครอง
📞 แจ้งเหตุโดยเร็ว – หากเกิดเหตุที่เข้าข่ายเคลม ต้องรีบแจ้งบริษัททันที
📜 ปฏิบัติตามเงื่อนไข – หากละเมิดเงื่อนไขอาจถูกปฏิเสธการชดเชยได้
### 💰 สิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย
🧍♂️ เป็นเจ้าของสิทธิทั้งหมดในกรมธรรม์ หากไม่มอบสิทธิ์ให้ผู้อื่น
🔁 สามารถเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยได้ (ตามเงื่อนไขบริษัท)
🔓 มีสิทธิในการโอนผลประโยชน์ให้บุคคลอื่น
❌ ขอยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 15 วัน (กรณีไม่มีการเคลม)
### 📆 ระยะเวลาผ่อนผันในการชำระเบี้ย
หากยังไม่ได้ชำระเบี้ยเมื่อถึงกำหนด ผู้เอาประกันภัยจะได้รับ **ระยะเวลาผ่อนผัน 31 วัน** (สำหรับประกันประเภทสามัญ) โดยกรมธรรม์ยังคงมีผลอยู่ และหากเกิดการเสียชีวิตในช่วงนี้ บริษัทจะหักเบี้ยที่ค้างก่อนชำระค่าสินไหม
### 📌 ทำไมถึงควรเป็นผู้เอาประกันภัย?
💡 เพื่อความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน
💡 เพื่อวางแผนรับมือความเสี่ยงในอนาคต
💡 เพื่อความมั่นคงของครอบครัวและธุรกิจ
💡 เพื่อความอุ่นใจในทุกสถานการณ์