## 🚘 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง? ฉบับเข้าใจง่าย โดย EasyInsure (อัปเดตปี 2568)
ถ้าคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ที่ “คุ้มค่า” ไม่แพงจนเกินไป แต่ยังให้ความคุ้มครองหลักครบทั้งรถเราและรถคู่กรณี “ประกันชั้น 2+” คือทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้เลยครับ!
หลายคนอาจสงสัยว่า… แล้วประกัน 2+ ต่างจากประกันชั้น 1 ยังไง? คุ้มครองแค่ไหน? ต้องจ่ายส่วนต่างหรือเปล่า? วันนี้ EasyInsure จะพาไปทำความเข้าใจแบบง่ายๆ สั้นๆ แต่ครบทุกมุม 👍
### ✅ ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
**1. คุ้มครองรถยนต์ของเรา (เฉพาะกรณี “รถชนรถ”)**
✔ ซ่อมรถเราให้ กรณีเกิดอุบัติเหตุที่มี “รถชนรถ” เท่านั้น
❗ แต่ถ้าไปชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือไม่มีคู่กรณี → ไม่คุ้มครองซ่อมรถเรา
**2. คุ้มครองรถคู่กรณี**
✔ ซ่อมรถของคู่กรณี (ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์)
✔ ช่วยรับผิดชอบความเสียหายที่เราทำให้เขา
**3. คุ้มครองรถสูญหาย และไฟไหม้**
✔ ครอบคลุมกรณีรถหาย, ถูกโจรกรรม หรือไฟไหม้
✔ ได้รับค่าสินไหมทดแทนตามวงเงินประกันที่ระบุไว้
**4. คุ้มครองบุคคลภายนอก (ชีวิตและทรัพย์สิน)**
✔ ชดใช้กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้คนอื่นบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหาย
✔ เป็นความคุ้มครองพื้นฐานของทุกกรมธรรม์
**5. คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) และค่ารักษาพยาบาล (บางบริษัท)**
✔ คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ (จำนวนที่กำหนด)
✔ ได้ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าสินไหมในกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพ
### 💡 แล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
* 🚗 **หากเราเป็นฝ่ายผิด** ต้องจ่าย “ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)” ประมาณ **2,000 บาท**
* 💸 **เบี้ยประกันชั้น 2+** เริ่มต้นประมาณ **4,500–7,000 บาท/ปี** (แล้วแต่รุ่นรถและบริษัทประกัน)
### 🧑🔧 เหมาะกับใคร?
* ✅ คนที่มีงบจำกัด ไม่อยากจ่ายเบี้ยแพงแบบประกันชั้น 1
* ✅ ผู้ที่ขับรถดี มีประวัติการขับขี่ปลอดภัย
* ✅ เจ้าของรถอายุ 5 ปีขึ้นไป (หรือมากกว่า 10 ปี)
* ✅ ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองมากกว่าชั้น 3+ แต่ยังไม่ถึงระดับชั้น 1
### 📝 ก่อนซื้อประกันชั้น 2+ ควรดูอะไรบ้าง?
1. **ดูว่าคุ้มครอง “รถเรา” แบบไหนบ้าง**
* บางบริษัทคุ้มครองเฉพาะชนกับรถยนต์ที่มีทะเบียนและมีคู่กรณีเท่านั้น
2. **อ่านเงื่อนไขให้ครบ**
* เช่น ความเสียหายที่ไม่คุ้มครอง, ค่าเสียหายส่วนแรก, เงื่อนไขการเคลม
3. **เปรียบเทียบหลายบริษัท**
* เพราะวงเงินและเบี้ยประกันจะแตกต่างกัน เช่น บางเจ้าให้ค่ารักษา 50,000 แต่บางเจ้าจ่ายแค่ 10,000