7 อาการไม่ดีของรถยนต์ที่จะบอกคุณให้รู้ว่า ใกล้พังแล้วนะ
ทุกวันนี้นั้นรถยนต์เป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งที่ถือว่ามีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันมาก แทบทุกบ้านจะต้องมีรถยนต์ไว้ใช้งานประจำบ้าน รถเก่าบ้างใหม่บ้างแตกต่างกันไป สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือใหม่ก็คือการซ่อมบำรุง สำหรับคนที่ใช้รถเก่าหรือรถมือสองแล้วนั้นอาจจะต้องเสี่ยงต่อการที่จะต้องเผชิญกับปัญหารถพังขึ้นมากลางทางง่ายอยู่สักหน่อย
เพราะเราไม่รู้ว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถยนต์นั้นผ่านการใช้งานมานานแค่ไหนแล้ว ส่วนคนที่ขับรถใหม่ป้านแดงก็อย่างเพิ่งชะล่าใจไปนะครับ เพราะว่ารถของคุณอาจไม่ยอมวิ่งเอาดื้อ ๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ การที่รถจะพังขึ้นมานั้นเราสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าถ้าเราหมั่นสังเกตสิ่งบอกเหตุดังต่อไปนี้
- เมื่อเริ่มมีอาการสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยากกว่าปกติ ทั่วไปแล้วการสตาร์ทควรจะต้องติดด้วยการบิดกุญแจเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เสียงไดสตาร์ทก็ไม่ควรลากยาวเกิน 3-4 จังหวะ เรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่า “ชึ่งเดียวติด” ถ้ากว่าจะติดใช้หลายจังหวะหรือต้องบิดกุญแจซ้ำๆ หลายครั้ง แสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้เสื่อมสภาพแล้ว แบตเตอรี่ไม่ควรมีอายุการใช้งานเกิน 2-3 ปี ควรเปลี่ยนเสียก่อนที่รถจะสตาร์ทไม่ติดเอานะครับ
รู้จักใช้รถยนต์ ไม่จำเป็นที่จะต้องซ่อม - เวลาจอดรถแล้วมีรอยหยดของน้ำมันบนพื้นหรือซึมออกมาจากเครื่องยนต์ คราบน้ำมันทั้งทั้งหลายเหล่านั้นแสดงว่ามีการรั่วซึมของระบบหล่อลื่น อันเกิดจากความผิดปกติหรือการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรรีบหาตำแหน่งที่น้ำมันหรือของเหลวอื่น ๆ รั่วซึมออกมาให้พบแล้วให้ช่างรีบแก้ไขโดยเร็ว
อ่านแล้วก็นำไปใช้ได้เลย ฟรี - มีเสียงผิดปกติเกิดขึ้นจากส่วนต่าง ๆ ของรถ เรื่องของเสียงนั้นค่อนข้างสังเกตยากหน่อย แต่ถ้าหมั่นคอยจดจำเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับรถเสมอจะช่วยให้เราแยกแยะเสียงที่ผิดปกติออกมาได้ เช่น เสียงที่มาจากเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสีย เสียงล้อยางบดกับถนน รวมไปถึงอาการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ถ้าแยกออกก็บอกช่างได้ถูกต้องครับ
- มีควันออกจากท่อไอเสียอย่างผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นควันขาวหรือควันดำ ควรปรึกษาช่างโดยด่วนจะดีที่สุด
- เวลาเบรกมีเสียงเหมือนโลหะเสียดสีกัน แสดงว่าผ้าเบรกสึกจนเหลือแต่แผ่นเหล็กรองแล้ว การเสียดสีจะทำให้เกิดความร้อนสูงจนเบรกติด รวมทั้งจากเบรกก็จะเกิดรอยสึกด้วย ควรเปลี่ยนผ้าเบรกเสียแต่เนิ่น ๆ นะครับ
- เมื่อรู้สึกเหมือนรถไม่ค่อยมีแรง อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น น้ำมันเครื่องเก่า แหวนลูกสูบชำรุด หรือสูบรั่วอย่าปล่อยไว้นะครับ ควรให้ช่างหาสาเหตุโดยเร็ว ก่อนที่ปัญหาจะบานปลายไปกันใหญ่
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นความผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ หากคุณหมั่นสังเกตอาการเบื้องได้ได้อย่างสม่ำเสมอและรู้ถึงวิธีการแก้ไข ก็จะสามารถช่วยให้คุณใช้รถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องมาคอยกังวลว่ามันจะพังขึ้นมาเมื่อไหร่ จริงไหมครับ หรืออ่าน บทความประกันภัยรถยนต์ต่อ
